ปีหน้าฉันจะสุขภาพดี…
ปีหน้าฉันจะมีเงินเก็บเยอะขึ้น…
ปีหน้าฉันจะทำนู่นนี่นั่นให้สำเร็จ…
ปีหน้า…. ไว้เดี๋ยวค่อยทำ New Year's Resolutions อันใหม่แล้วกัน
ขึ้นปีใหม่ทีไร วางแผนไว้อย่างดี วาดฝันไว้อย่างสวยหรู สัญญากับตัวเองว่าจะทำขอเวลาอีกไม่นาน แต่สิ่งเหล่านั้นมักจะถูกหลงลืมไปหลังปีใหม่ผ่านไปในเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์…
คุณเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ตั้ง New Year's Resolutions ไว้ แต่ทำจริงไม่เคยได้รึเปล่า?
ผมเองก็เป็นแบบนั้นมาตลอดทั้งชีวิต จนกระทั่งปีที่ผ่านมาทั้งปี ได้ลอง “เปลี่ยน” วิธีการ
ในโพสต์นี้ ผมจะมาแชร์วิธีการที่ช่วยให้ในปีที่ผ่านมา ผมสามารถทำ New Year's Resolutions ได้สำเร็จไป 57%
ถ้าอ่านจบแล้วทำตาม ผมไม่รับรองว่าคุณจะประสบความสำเร็จทุกอย่างตาม New Year's Resolutions ที่ตั้งไว้ แต่รับรองว่าคุณจะทำสิ่งที่คุณอยากทำให้สำเร็จได้มากขึ้นแน่ๆ ครับ
7 เทคนิคทำให้ New Year's Resolutions ประสบความสำเร็จ
1. ตั้งเป้า
ขึ้นชื่อว่า New Year's Resolutions แล้วสิ่งแรกๆ ที่ควรทำคือการตั้งเป้า แต่การตั้งเป้าว่าฉันจะเงินเดือนเยอะขึ้น ฉันจะเก่งขึ้น ฉันจะสุขภาพดีขึ้น นั้นไม่เพียงพอเพราะมันวัดผลไม่ได้
สิ่งสำคัญคือคุณต้องทำให้เป้าหมายที่คุณตั้งไว้ SMART – Specific (เฉพาะเจาะจง), Measurable (วัดผลได้), Attainable (ทำได้จริง), Relevant (เกี่ยวข้อง) และ Time-bounded (มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน)
อยากเงินเดือนเยอะขึ้น ก็ต้องบอกไปเลยว่าอยากเยอะขึ้นเท่าไหร่ เช่น จาก 30,000 ต่อเดือน เป็น 40,000 ต่อเดือน
อยากเก่งขึ้น ก็ต้องหาวิธีวัดผลมา เช่นไปสอบ IELTS แล้วได้ 7.5 หรือสอบ Certifiate ของ Facebook/Google ผ่าน
อยากสุขภาพดี ก็อาจจะตั้งเป้าให้ไขมันลดลง เช่นจากเดิมที่มี 25% ในมวลร่างกาย ให้ลดลงเหลือ 20%
“ถ้าเป้าเบลอ จะเผลอผลัด ถ้าเป้าชัด จะซัดง่าย”
2. จดอย่าแค่จำ
มีสุภาษิตจีนอันนึงเขียนไว้ว่า “The faintest ink is more powerful than the strongest memory – หมึกที่เจือจางที่สุดยังทรงพลังกว่าความทรงจำที่แข็งแรงที่สุด”
ถ้าคุณทำ New Year's Resolutions ด้วยก็บอกตัวเองว่า “ปีหน้าฉันจะสุขภาพดี” โดยที่คุณไม่ได้จดมันไว้ที่ไหน สัปดาห์ถัดมา คุณก็จะยังคงเป็นคุณคนเดิมที่นอนผึ่งพุงดูทีวีพร้อมกินขนมถุงใหญ่โดยไม่ยอมไปออกกำลังกายเหมือนเดิม
การเขียนคือการย้ำเตือน คือการเรียบเรียงความคิด และที่สำคัญคือการให้สัญญาแบบเป็นลายลักษณ์อักษรกับตัวเอง
คุณจะเขียนลงในสมุดหรือพิมพ์เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณก็ได้ (หรือจะปริ้นออกมาแล้วใส่กรอบรูปไว้ก็เป็นท่าที่น่าสนใจ) สิ่งสำคัญคือต้องเปลี่ยนความคิดในสมองออกมาเป็นตัวหนังสือให้ได้ครับ
“ถ้าจดเอาไว้ จะเรียกใช้ได้ง่าย”
Note: ผมจด New Year's Resolutions ของผมไว้ใน Google Sheet ครับ ลองเอาไฟล์นี้ไปดูเป็นตัวอย่างได้ครับ (ขอปิดข้อมูลจริงบางส่วนไว้นะครับ 🙂 )
3. ซอยเป้าให้เล็กลง
การตั้งเป้าหมายแบบเป็นรายปีและพยายามทำตามให้ได้ ก็เหมือนกับการที่เราเดินอยู่กลางทะเลทราย เห็นโอเอซิสแล้ว แต่เดินไปเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึงสักที พอเดินไปได้สักพักก็จะเริ่มท้อ และสุดท้าย… ก็จะเลิกเดิน
เพราะฉะนั้นการซอยเป้าหมายให้เล็กลงเลยเป็นเรื่องสำคัญ
ผมเอาสูตรการซอยเป้าหมายที่ผมใช้กับธุรกิจมาใช้กับตัวผมเองครับ ซึ่งสูตรที่ว่านี้คือ OKR (Objectives & Key Results) ซึ่งการทำ OKR จะเป็นการเอาเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นรายปีมาซอยย่อยให้เป็นรายไตรมาส (ราย 3 เดือน)
O (Objectives) คือเป้าหมายที่อยากจะทำให้ได้ในไตรมาสนั้นๆ
KR (Key Results) คือผลลัพธ์ที่เป็นตั้งบ่งชี้ว่า Objective นั้นๆ สำเร็จหรือไม่สำเร็จ
ซึ่ง OKR ที่ตั้งนั้นจะต้องไป Contribute หรือตอบอะไรบางอย่างให้กับเป้าหมายทั้งปีของเรา และ OKR ที่ดีนั้นควรจะต้องมีทั้ง Committed (คือเป็นสิ่งที่เราตั้งใจจะต้องทำให้ได้ทั้งหมด) และ Aspirational (คือเป้าหมายแบบ Moonshot ทำได้ยาก ต้องใช้ความคิด ใช้แรง หรือต้องลองวิธีการใหม่ๆ)
“ซอยให้สั้น แล้วจะปั่นได้นาน”
Note: ตัวอย่าง OKR ที่ผมตั้งไว้อยู่ในไฟล์ Google Sheet อันเดิม ลองเข้าไปดูได้นะครับ
4. สร้าง Habits
เทียบกับข้ออื่นๆ แล้ว ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุดที่จะ Make or Break New Year's Resolutions ของคุณเลย ต่อให้ทำและวางแผนข้ออื่นมาดีแค่ไหน แต่ถ้าทำข้อนี้ไม่ได้ก็จบกัน
Habits คือกิจวัตรประจำวัน นิสัย พิธีกรรมที่คุณจะทำในทุกวัน สิ่งสำคัญคือต้องพยายามตัดนิสัยที่ไม่ดีทิ้ง และเพิ่มนิสัยที่ดีเข้ามาแทน
เช่นตอนเช้าผมจะตื่นมา ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ไม่เล่นโทรศัพท์ เขียนบล็อก/ทำคอนเทนต์ กินชา/กาแฟดีๆ ไม่ใส่น้ำตาล
ตอนเย็นก็จะกินข้าวกับครอบครัว Reflect สิ่งที่ทำในวันนี้ จดสิ่งที่จะต้องทำของวันรุ่งขึ้น นั่งสมาธิ
ผมพยายามให้ไม่หลุด Routine ด้านบนนี้ แต่แน่นอนว่าผมเป็นมนุษย์ที่มีกิเลสและมีหัวจิตหัวใจ ไม่ใช่หุ่นยนต์ ระหว่างปีมันก็จะมีบางช่วงที่หลุดๆ (อย่างในเดือน 11 ที่งานเยอะ + ติดเกม FM2022 ผมก็ไม่ค่อยได้นั่งสมาธิหรือทำคอนเทนต์ส่วนตัว)
ซึ่งสิ่งที่ผมใช้เพื่อทำให้ตัวเองอยู่กับร่องกับรอยมากขึ้นคือ “Habit Tracker” ที่ผมจะใช้คอย Track Habits ที่ทำทุกวันอยู่ ซึ่งไอ้ Habit Tracker อันนี้จะทำให้รู้ตัวเองมากขึ้น และเมื่อรู้ตัวเองก็จะกลับลำได้ไว
“นิสัยอันเล็กน้อย มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่ยิ่ง – With small habits come big changes” ( ขออนุญาตยืมวลีจากเรื่อง Spiderman ที่ว่า With great power comes great responsibilities มานะครับ)
5. ให้กำลังใจตัวเอง + ผ่อนปรนบ้าง
เอาจริงๆ การฝืนทำสิ่งที่ไม่อยากทำ/เหนื่อยเพื่อผลลัพธ์ระยะยาวมันเป็นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะคุณต้องต่อสู้กับตัวเองอยู่เรื่อยๆ เป็นระยะ ผมเองก็เป็นอยู่บ้างที่ตื่นเช้ามาไม่อยากออกกำลังกาย หรืออยากกินบุฟเฟต์แบบจัดหนักๆ หรืออยากนั่งโง่ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย
ความสบาย ความง่าย ในระยะสั้นๆ ที่รู้แหละว่ามันไม่ดีกับเราในระยะยาว แต่มันช่างหอมหวานเย้ายวนใจซะเหลือเกิน
คำแนะนำของผมคืออย่าเป็นไม้บรรทัดที่ยอมหักไม่ยอมงอ ทำตัวให้เหมือนต้นไม้ที่ลู่ลมจะดีกว่า
วันไหนที่ทำสิ่งที่ต้องทำได้ดีก็ชื่นชมและให้กำลังใจตัวเอง วันไหนที่ทำได้ไม่ดีก็อย่ารู้สึกแย่กับตัวเอง ต้องผ่อนปรนกับตัวเองบ้าง
การได้ทำอะไรนอกตาราง ว่าง่ายๆ คือมี Cheat Day บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการไปกิน เที่ยว ดื่ม ช๊อป หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เส้นทางการไปสู่ New Year's Resolutions ง่ายละมีความหมายมากยิ่งขึ้น
“เธอน่ะทำได้ดีแล้ว ถ้าไม่ไหวก็พักก่อน แล้วค่อยกลับมาวิ่งตามฝัน อย่าฝืนกายฝืนใจเกินไป”
6. Review & Reflect
บางครั้งเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่เดือน New Year's Resolutions ที่ตั้งมาอาจจะดูไม่เข้าท่า OKR ที่เขียนไว้อาจจะยากเกิน หรือ Habits ที่ตั้งไว้อาจจะทำไม่ได้จริง
การคิดทบทวนสิ่งต่างๆ อีกครั้งเป็นเรื่องที่สำคัญ (แนะนำให้ลองไปอ่านหนังสือเรื่อง Think Again)
แล้วถามว่าควรบ่อยแค่ไหน?
จากที่ผมทำคือผมจะรีวิว New Year's Resolutions และ OKRs ทุกไตรมาส (3 เดือน)
Habits ที่จะทำในแต่ละวันทุกเดือน
รีวิวสัปดาห์ที่ผ่านมาและวางแผนที่จะทำในสัปดาห์ถัดไป ทุกวันอาทิตย์
และผมพยายามทำ To do list เพื่อเช็คว่าทำอะไรเสร็จไปบ้าง และทำ Journaling จดสิ่งที่ได้เรียนรู้ (Things I learned) สิ่งที่ขอบคุณ (Things I'm grateful for) ในทุกๆ วัน
7. เทคนิคและคำแนะนำสุดท้าย
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่า ยินดีด้วยครับที่คุณได้กุมชะตาชีวิตของคุณในปีหน้าไว้แล้ว
แต่บทความนี้จะเป็นบทความเปลี่ยนชีวิตหรือเป็นแค่ Inspiration (ที่ทำให้คุณรู้สึกดี แต่จบปีหน้าสิ่งที่ตั้งเป้าไว้ก็ยังเป็นแค่เป้าต่อไป) จะขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่คุณจะอ่านต่อไปทางด้านล่างนี้ครับ
.
.
.
สิ่งที่สำคัญมากกว่าการอ่านบทความนี้ หรือการกลับไปอ่านรีวิวเนื้อหาในบทความ/โพสต์นี้ซ้ำๆ คือ…
.
.
.
คือ…
.
.
.
คือ… (ขอเว้นบรรทัดเยอะหน่อยเพื่อความตื่นเต้น 😂)
.
.
.
คือ “การลงมือทำ” ครับ
เพราะฉะนั้นอ่านจบแล้ว อย่าลืมเอากลับไปทำจริงๆ ด้วยนะครับ
ผมมีเนื้อหาและเครื่องมืออื่นๆ อีกหลายตัวที่เคยเขียนไว้แล้วที่จะทำให้การลงมือทำของคุณง่ายขึ้น ลองไปศึกษาเพิ่มได้นะครับ
บทความ
- รู้จักกับ Personal Mission & Vision Statement พร้อมวิธีเขียนอย่างง่ายๆ
- “Affirmation” เครื่องมือที่จะช่วยให้สิ่งที่คุณฝันไว้เป็นจริง
- 3 องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิด “Habit (นิสัยที่เคยชิน)”
- [แชร์ประสบการณ์] วิธีการเลิก “เสพติด Facebook” ได้อย่างจริงจัง
- แนะนำ 16 ซอฟต์แวร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
เครื่องมือ
- Google Sheet – ใช้ใส่ข้อมูล New Year's Resolutions (ไป Duplicate ไฟล์ New Year's Resolutions และ OKR ของผมได้)
- Notion – ผมใช้สำหรับจด Note และทำ To-do list สำหรับเรื่องงาน
———
อ่านบทความนี้จบแล้ว ลองเอาไปปรับใช้กับ Workflow ส่วนตัวดูนะครับ ผมรู้สึกว่าท่าที่ผมใช้แอบต้องใช้ความพยายามเยอะเกินไปนิด 😅
เดี๋ยวปีหน้าจะลองปรับ Workflow แล้วเอามาแชร์อีกครั้งครับ
ย้ำอีกครั้ง สิ่งสำคัญที่จะทำให้ New Year's Resolutions ในปีหน้าและปีหน้าๆ สำเร็จได้คือการ “ลงมือทำ” ครับ
สุดท้าย ผมขออวยพรให้คุณตั้ง New Year's Resolutions และทำตามที่ตั้งเป้าไว้ให้ได้มากเท่าที่คุณหวังไว้นะครับ
ป.ล ถ้าคุณตั้ง New Year's Resolutions เสร็จแล้ว เอามาแชร์กันในคอมเมนต์ได้นะครับ 🙂