“เผลอเป็นจับ ขยับเป็นไถ”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมมีอาการเสพติดการไถ Feed Facebook คือเรียกได้ว่าหยิบมาไถทุกๆ 5-10 นาที
ซึ่งก็รู้ตัวว่ามันเป็นปัญหาเพราะมันส่งผลต่อทั้งเรื่องงานและเรื่องการใช้ชีวิต
ลองปรับลองแก้มาหลายวิธี แต่ก็ยังเลิกไม่ได้สักที จนกระทั่งได้มาเจอ Combination ของสูตรการรักษา “อาการเสพติด Facebook” มาอยู่สูตรนึง ทดลองใช้มาสักเดือนนึง แล้วพบว่าใช้ได้ผล
จากเดิมที่ต้องไถตลอด (วันนึงน่าจะเป็นร้อยรอบ ฮา) กลายมาเป็นเข้ามาเช็ค facebook.com แค่เช้า กลางวัน เย็น รวมๆ วันนึงเหลือไม่ถึงสิบรอบ
ผมก็เลยอยากจะเอาสูตรการบำบัดนี้มาเขียนแชร์เผื่อว่าใครมีอาการเดียวกันจะได้ลองเอาไปใช้ดู
เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด มาหยุดเสียเวลาไปกับการไถ Feed Facebook ไปวันๆ กันเถอะ!
ป.ล. ถึงแม้สูตรนี้จะใช้ได้กับผลกับผม แต่มันอาจจะไม่เวิร์คกับคุณก็ได้นะครับ ต้องลองทดสอบ ลองผิดลองถูกเอาเอง 🙂
5 ขั้นตอนการหยุดเสพติด Facebook
ทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ผมต้องทำทั้งหมดถึงจะหยุดเสพติดได้นะครับ แนะนำว่าให้อ่านให้ครบ และถ้าจะลองทำ อยากเชียร์ให้ทำให้ครบทุกข้อครับ เพราะผมเคยทำ 3-4 ข้อแล้วมันก็ยังเลิกไม่ได้อยู่ดี
ถ้าพร้อมแล้ว ไปดู 5 ขั้นตอนกันเลยครับ!
1. ติดตั้ง News Feed Eradicator for Facebook บน Browser
วิธีนี้วิธีเดียวทำให้ผมสามารถเลิกการเสพติด Facebook บน Desktop ไปได้ (แต่ถ้าจะเลิก Mobile ด้วย ยังไม่พอ)
เพราะทุกครั้งที่คุณเข้าไป Facebook ของคุณ Extension ตัวนี้ จะทำการลบโพสต์ต่างๆ ออกจาก Feed แล้วเอา Quote สร้างแรงบันดาลใจดีๆ มาแทนที่
ตัวอย่างด้านบนเป็นอันที่ผม Cap หน้าจอมาจาก Facebook จริงๆ ของผม (นอกเหนือจาก Quote ที่เป็น Default ที่เขาตั้งมาให้แล้ว คุณยังสามารถใส่ Quote ของตัวเองเข้าไปได้ด้วยนะ)
Note: เท่าที่ผม Search ดู Extension ตัวนี้มีให้ดาวน์โหลดฟรีใน Chrome และ Firefox ส่วน Browser อื่นๆ ผมไม่แน่ใจ
2. ลบแอป Facebook บนมือถือทิ้ง
การลบแอป Facebook บนมือถือทิ้งถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ค่อนข้างหักดิบและอาจจะทำให้กระวนกระวายในช่วงแรกๆ
แบบเปิดมือถือขึ้นมาแล้ว พยายามเข้าแอป Facebook แต่สุดท้าก็หาไม่เจอ แต่พอไม่เจอบ่อยๆ เข้าก็จะชินขึ้น
Note: ผมเคยใช้วิธีเอาแอป Facebook ไปซ่อนไว้ใน Folder หน้าที่ 2-3 แล้ว แต่ก็ไม่เวิร์คเพราะหลังๆ ผมใช้วิธีการ Search หาแอปเอา
3. ปิด Notification Social Apps อื่นๆ ให้หมด
Messenger, LINE และแอป Social อื่นๆ ตัวไหนก็ตามที่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น ผมจะปิด Notification ให้หมด เพราะถ้ามันเด้งมา ผมก็จะอยากเข้าไปดู พออยากเข้าไปดู ก็อยากรู้มากขึ้น ความอยากที่จะดาวน์โหลด Facebook กลับมาเก็บไว้ในมือถือก็จะมากขึ้นไปอีก
วิธีการสำหรับ iPhone คือเข้าไปที่ Settings > Notifications > เลือกแอปที่อยากปิด Notification > ปิดปุ่ม Allow Notifications
สำหรับ Android ก็น่าจะคล้ายๆ กัน
Note: ถ้าคุณกลัวว่าจะตกข่าวหรือพลาดการอัปเดตเรื่องสำคัญๆ ของประเทศไป ลองไปใช้แอปอย่าง Feedly หรือ Pocket ที่จะคอยส่ง Feed ข่าวในหัวข้อที่คุณสนใจมาได้นะครับ
4. ใช้ Social Media Management Platform ในการทำงาน
ผมเชื่อว่าคุณน่าจะมี Page หรือ Group Facebook ที่คุณเป็นเจ้าของและต้องทำการบริหารมันอยู่อย่างน้อยๆ 1 อันแน่ๆ
การที่คุณลบแอป Facebook ทิ้งไป มันอาจจะทำให้ชีวิตการบริหาร Page/Group ยากขึ้นนิดหน่อย แต่จริงๆ แล้วมันก็พอมี Solution อยู่บ้าง
คุณอาจจะเลือกใช้แอป Facebook Page และ Facebook Ads ที่ Facebook สร้างขึ้นมาเพื่อใช้บริหาร Page/Group ของคุณ
หรือไม่ก็ไปเลือกใช้เครื่องมืออย่าง Buffer, Hootsuite ที่เป็นเครื่องมือช่วยบริหารจัดการ Social Media สำหรับธุรกิจเพื่อช่วยจัดการก็ได้
อ่านเพิ่มเติม: 20 เครื่องมือที่จะติดปีกให้กับ Social Media ของคุณ (มีทั้งฟรี และเสียเงิน)
5. อ่านหนังสือเล่มนี้
จริงๆ ต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้คือ “จิ๊กซอว์” ชิ้นสุดท้ายที่ทำให้ผมเลิกเสพติด Facebook ได้อย่างจริงๆ จังๆ เลย เพราะผมพยายามใช้ 4 วิธีแรกมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที ทำได้แค่ไม่กี่วัน
หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า “The Greatest Salesman in the world” ซึ่งเอาจริงๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่อง Productivity หรือการทำให้เสพติด Facebook น้อยลงเลย ฮา
หนึ่งในเนื้อหาสำคัญของหนังสือเล่มนี้อยู่ในคัมภีร์สุดท้ายนักขายชุดแรก (จากทั้งหมด 10 ชุด) ซึ่งใจความสำคัญของมันบอกว่า “I will form good habits and become their slave” หรือ ” ฉันจะสร้างนิสัยที่ดีและกลายเป็นทาสของมัน”
ทั้งนี้ ไอ้ประโยคข้างบน ผมคิดว่าใครๆ ก็รู้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมเสพติด Facebook น้อยลงได้จริงๆ มันคือตัว “หนังสือ” เองต่างหาก
ผมขออนุญาตไม่บอกใบ้ว่าทำไม แต่อยากจะเชียร์ให้ลองไปซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูและพยายามอ่านให้ถึงหน้า 57 ครับ 🙂
Note: ผมได้การป้ายยาหนังสือเล่มนี้จากคุณอัป Superlock ตอนที่สัมภาษณ์คุณอัปลง FounderCast ครับ ต้องขอบคุณคุณอัปมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์กว่าที่คิดไว้เยอะมากๆ
ถ้าไม่รู้จะหาหนังสือจากไหน ผมมีแหล่งมาให้ครับ ผมสั่งจาก Kinokuniya ซึ่งราคารวมค่าส่งประมาณ 280 บาทครับ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็ได้แล้ว
สรุป
และนี่คือ 5 วิธีในการหยุดอาการเสพติด Facebook ของผมนะครับ อยากที่บอกไป ผมต้องทำทั้ง 5 ข้อนี้อาการเสพติดถึงจะหายไป
ถ้าคุณคิดว่าวิธีการของผมน่าสนใจ ลองเอาไปทำตามได้ครับ ได้ผลไม่ได้ผลยังไง หรือมีวิธีอื่นแนะนำเพิ่มเติม มาแชร์กันได้ในคอมเมนต์ครับ 🙂
