จากที่ผมเคยแชร์เรื่อง รู้จัก Notion ซอฟต์แวร์จดโน้ต จัดการงาน วางแผนต่างๆ ได้ครบจบในตัวเดียว ไปในคอนเทนต์ก่อน ในวันนี้ผมจะมาแชร์เครื่องมือช่วยเพิ่ม productivity สำหรับคนที่เป็นสายจดบน iPad ครับ
โดยผมก็ได้คัดแอปพลิเคชันจดโน้ตระดับตำนานมาถึง 3 แอปด้วยกัน ซึ่งคือแอปสุดคลาสสิกอย่าง Notes แอปยอดฮิตของนักจดสายลายมืออย่าง Goodnotes 5 และแอปที่แทบจะเป็นทุกอย่างให้คุณแล้วอย่าง Notability
แต่ละแอปจะมีลักษณะการใช้งาน เอกลักษณ์เฉพาะ ฟีเจอร์แจ่มๆ อะไรบ้าง วันนี้ผมจะพาคุณมาดูกัน
1. Notes
Notes แอปพลิเคชันสุดคลาสสิกที่ติดมากับตัวเครื่อง ใช้งานฟรี! สบายกระเป๋า แต่ยังไม่มีลูกเล่นสักเท่าไหร่ หลักๆ ที่แอปนี้ทำได้ก็จะเป็นการจดโน้ตทั่วไป และการ export ไฟล์ออกไปยังแอปอื่นๆ
ความพิเศษของเจ้าแอปนี้อยู่ตรงที่สามารถเพิ่มผู้อื่นเข้ามาเป็นผู้แก้ไขหรือผู้ชมแบบเดียวกับที่สามารถทำได้ใน Google Docs หรือ Canva ซึ่งผู้ที่ถูกเพิ่มเข้ามาก็จะสามารถเห็นทุกความเคลื่อนไหว และการเปลี่ยนแปลงล่าสุดได้ทันทีโดยที่เรา และอีกฝ่ายไม่ต้องเสียเวลาอัปเดตซึ่งกันและกัน
และอีกอย่างที่ผมชอบเกี่ยวกับ Notes คือความเร็วและความลื่นไหลครับ ปกติเวลาใช้นี่แทบไม่รู้สึกถึงความหน่วงเลย
2. Goodnotes 5
Goodnotes 5 แอปยอดฮิตของนักจดสายลายมือที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่หลากหลายตอบโจทย์การจดโน้ต การทำงานของสมัยใหม่สุดๆ ทั้งฟีเจอร์ปากกาสีที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ ฟีเจอร์การปรับขนาด ระดับความคม และแรงกดของเส้นปากกาตามใจชอบ ฟีเจอร์การซูมหน้าจอเล็กสำหรับเขียน ฟีเจอร์การนำเสนองานด้วยเลเซอร์หรือการสะท้อนภาพจอ ฟีเจอร์การแบ่งหน้าจอที่ช่วยให้คุณเปิดโน้ตพร้อมกันถึง 2 โน้ต ฟีเจอร์การแชร์โน้ตให้กับผู้ใช้งานคนอื่นๆ ฟีเจอร์การซูมหน้าจอเล็กที่ช่วยให้คุณสามารถเขียนได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงฟีเจอร์ Template สมุดโน้ตที่มีให้เลือกหลายแบบ และสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลาอีกด้วย
ซึ่งฟีเจอร์แจ่มๆ ทั้งหมดที่พูดมานี้ก็มาพร้อมกับราคาที่สมน้ำสมเนื้อครับ โดยปัจจุบันเจ้าแอปนี้อยู่ที่ราคา 299 บาท ซึ่งนับว่า เป็นเรทราคาที่ไม่แรงมากเมื่อเทียบกับคุณภาพ และการอัปเดตเวอร์ชันใหม่เรื่อยๆ จากนักพัฒนา
3. Notability
มาต่อกันที่ตัวสุดท้ายครับ Notability แอปที่แทบจะเป็นทุกอย่างให้คุณแล้ว อัดเสียงก็ได้ จูนเสียงก็ได้ เพิ่ม gif หรือวิดีโอก็ได้ แชร์ลิงก์ผู้แก้ไขหรือผู้ชมแบบแอป Notes ก็ได้ ตั้งล็อก Password โน้ตก็ได้ (ฟีเจอร์นี้ถึงแม้จะดูน่าสนใจ แต่ส่วนตัวผมคิดว่ามันยังไม่ค่อยเวิร์ก เพราะยังเป็นรุ่นพัฒนาแรกๆ อยู่ ถ้าคุณตั้ง Password ไปแล้วก็จะไม่สามารถเปลี่ยนได้อีก)
หลักๆ แอปนี้จะมีความ user-friendly มากกว่า Goodnotes และฟีเจอร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี option เยอะ ยกตัวอย่างเช่น หัวปากกาที่มีให้เลือกเพียงแค่ 2 แบบ ขนาดของหัวปากกาที่ถูกกำหนดมาแล้ว โดยมีให้เลือกเพียงแค่ 12 แบบเท่านั้น (ต่างจาก Goodnotes ที่ปรับได้ตั้งแต่ 0.1 ถึง 2.0 mm) และการวาดวงกลม สี่เหลี่ยม เส้นตรงที่สะดวกกว่า (เพียงแค่วาดแล้วลากปากกาค้างไว้แป๊บเดียว แต่ถ้าเป็น Goodnotes คุณจะต้องเสียเวลาจิ้มที่ปุ่มวาดวงกลม สี่เหลี่ยม เส้นตรงเฉพาะก่อน จากนั้นถึงจะสามารถวาดได้)
และอีกหนึ่งกิมมิคเด็ดของ Notability นั่นก็คือ ‘ฟีเจอร์ Notability Plus’ ที่มีธีม แพลนเนอร์รายปี และสติ๊กเกอร์ให้คุณเลือกใช้มากมายครับ โดยเขาก็ได้มีการอัปเดตแบบใหม่ให้เรื่อยๆ ในราคา 429 บาท/ปี ถ้าคุณชอบเขียนแพลนเนอร์ วางแผนสำหรับเป้าหมายต่างๆ ผมว่าฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์น่าสนใจครับ
สรุป
ในความเห็นผม Notes เหมาะกับสาย Minimal Goodnotes 5 เหมาะกับสายลายมือ ชอบตกแต่ง ส่วน Notability เหมาะกับสายชอบความสะดวก รวดเร็ว
ผมไม่ขอสรุปว่า แอปตัวไหนดีกว่ากันนะครับ เพราะทั้ง 3 แอปต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ‘ลักษณะการใช้งาน’ ของแต่ละคนมากกว่า ปกติแล้วแอปจดโน้ตจะเป็นแอปที่จะถูกเปิดอยู่บ่อยๆ เพราะฉะนั้นความ “เข้ามือ” จำเป็นสิ่งที่สำคัญ ผมแนะนำให้คุณลองดาวน์โหลดทั้ง 3 ตัวมาใช้ก่อน แล้วดูว่าตัวไหนตอบโจทย์คุณที่สุดนะครับ)
