กฏแห่งการเรียนรู้ 7 ข้อของผม

Featured Image learning rules

การเรียนอาจจะจบในห้องเรียน แต่การเรียนรู้ในชีวิตจริงไม่เคยจบสิ้น

ยิ่งปัจจุบันที่ความรู้เก่าหมดอายุเร็ว และมีเรื่องใหม่ๆ มาให้เรียนรู้มากมายเหลือเกิน

ในบทความนี้ ผมอยากเอา กฏแห่งการเรียนรู้ 7 ข้อของผมที่ใช้มาตลอดหลายปีมาแชร์ครับ

คิดว่าข้อไหนหยิบไปใช้ได้ ก็หยิบไปใช้กันนะครับ 🙂

กฏข้อที่หนึ่ง: You don’t have to learn from the best, just learn from someone who’s a few steps ahead

คุณไม่จำเป็นต้องเรียนรู้จากคนที่เก่งที่สุดในเรื่องที่คุณอยากรู้ แต่ให้เรียนรู้จากคนที่รู้มากกว่าคุณไม่กี่ขั้นก็เพียงพอแล้ว (ว่าง่ายๆ คือคนที่รู้เรื่องที่คุณอยากรู้ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้)

เพราะบริบทของคุณกับของคนที่เก่งที่สุดนั้นอาจจะไม่ได้เหมือนกัน

และถ้ามัวแต่จะมองหา “ที่สุด” คุณอาจจะต้องรอเรียนกับคนประเภทแบบ Warren Buffet, Elon Musk, J.K. Rowling หรือ Lionel Messi แทน ซึ่งคนเก่งที่สุดไม่ใช่ว่าจะสอนเก่ง และไม่ใช่ว่าเขาจะมีเวลามาสอน

กฏข้อที่สอง: The shorter, the better

เนื้อหา บทเรียน ยิ่งสั้น ยิ่งดี

ยิ่งการเรียนรู้สั้นเท่าไหร่ แสดงว่าเนื้อหาที่เราเรียน กำลังถูกเอามาย่อยและถ่ายทอดให้เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

ส่วนตัว ผมไม่ชอบอะไรที่เน้นปริมาณ เช่นคอร์สละ 50-60 ชั่วโมง

คือถ้ามันยาวมากๆ เยอะมากๆ มีโอกาสสูงที่ผู้สอนจะยังตกผลึกมาให้เราไม่ดีพอ

ป.ล. สั้นแต่ต้องครบถ้วนนะ ไม่ใช่แค่สั้นอย่างเดียว แล้วสุดท้าย เรียนแล้วไม่ได้เรียนรู้อะไร

กฏข้อที่สาม: Mostly, there are no finite answers

การเรียนรู้ที่สำคัญหลายๆ เรื่องมักจะไม่มีคำตอบที่ถูกต้องแค่อย่างเดียว

คือเรื่องที่คนเราจะเรียนรู้ ส่วนมากแล้ว มันไม่ได้เป็นแค่ 1+1 = 2

สิ่งสำคัญคือการที่เราต้องเข้าใจบริบท (Context) และเอามันไป Apply ต่อเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้งานจริงๆ

ในฐานะที่เป็นคนที่เรียนรู้ อย่าเชื่อคนสอนทุกอย่างโดยสนิทใจ (และคนสอนเองก็ไม่ควรจะฟันธงเช่นกัน)

สุดท้าย สำคัญที่สุดคือบริบทที่เอาไปใช้งานต่อครับ

กฏข้อที่สี่: Follow the rules, until you master it

ทำตามกฏ จนกว่าจะเชี่ยวชาญ

ถ้าเพิ่งเรียนรู้เรื่องไหนมาใหม่ๆ ให้ฝึกลองทำตามกฏให้เชี่ยวชาญก่อน จากนั้นค่อยหาทางออกนอกกรอบ

ถ้าจะนอกกรอบตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เชี่ยวชาญ มีโอกาสสูงมากที่สิ่งที่ทำจะ “พัง” แทน “ปัง”

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเช่นเรื่อง UX/UI (ดีไซน์ให้ดีและใช้งานง่ายก่อน) หรือเรื่องการเล่นดนตรี (เล่นให้ถูกคีย์ ถูกจังหวะ ก่อน แล้วค่อย Improvise)

กฏข้อที่ห้า: Implementation over Inspiration

เน้นเรียนขั้นตอนการทำมากกว่าการนั่งรับแรงบันดาลใจ

เวลาผมจะเรียนอะไร ผมชอบเรียน Topic ที่มันค่อนข้าง Specific รู้เลยว่าเรียนแล้วจะได้รู้เรื่องอะไร มากกว่าแค่ไปนั่งฟังเอาแรงบันดาลใจ

เพราะสุดท้าย ถ้ามันเจาะจงพอ มันจะใช้งานได้จริง

คือไม่ใช่ว่าผมจะไม่เสพเนื้อหาสร้างแรงบันดาลใจเลยนะ คือเสพแหละ แต่มันจะไม่อยู่ในรูปแบบการนั่งเรียน

แอบรู้สึกว่าความฮึกเหิมมันอยู่ได้ไม่นาน แต่วิธีคิดและขั้นตอนต่างๆ มันอยู่ได้นานกว่า

กฏข้อที่หก: It’s useless if you keep it only in your head

ความรู้จะไร้ประโยชน์ถ้าเราเก็บมันไว้แค่ในหัวสมอง

สำคัญคือต้องเอาสิ่งท่ีเรียนรู้มา มาลงมือทำด้วย

เรียนเขียนโค้ดเสร็จ ต้องลองสร้าง Project ขึ้นมา

เรียนเขียนเสร็จ ต้องลองเขียนบทความขึ้นมา

เรียนอะไรเสร็จก็แล้วแต่ ต้องสร้าง Output ออกมา

ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เรียนมามันอาจจะโบยบินออกจากสมองไป

กฏข้อที่เจ็ด: The more you teach, the more you learn

วิธีการเรียนรู้ขั้นสุดยอดที่เหนือกว่าการลงมือทำคือการสอนให้คนอื่นทำให้ได้

วิธีนี้เป็นวิธีที่ผมใช้บ่อยและใช้มานานมากๆ แล้ว

ทุกครั้งที่เตรียมเนื้อหาไปสอน (ต่อให้เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าผมเข้าใจดีแล้ว) ผมพบว่าการสอนจะทำให้ผมตกผลึกและเข้าใจเรื่องนั้นๆ ไปอีกขั้นเลย

นอกจากการจัดคลาสแล้ว อาจจะเริ่มง่ายๆ จากการเขียนบทความหรือทำคลิปขึ้นมาก่อนก็ได้ครับ

Learn, Teach & Repeat

สรุป

หวังว่ากฏ 7 ข้อนี้ของผมจะเป็นประโยชน์กับคุณนะครับ

อ่านคอนเทนต์นี้ของผมจบแล้ว ได้เรียนรู้อะไรบ้าง มาสรุปให้ผมและคนอื่นๆ อ่านกันได้นะครับ 🙂

หรือถ้ามีวิธีไหนที่คุณใช้เป็นประจำแล้วเวิร์ค แล้วอยากเอามาแชร์ ก็มาคุยกันต่อได้ในคอมเมนต์ได้เลยครับ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top