สัปดาห์ที่แล้ว ผมไปฮ่องกงกับมาเก๊ามา และนี่คือ 25 เรื่องน่าสนใจ (สำหรับผม) ที่อยากเอามาแชร์ 😁
- ผมไม่ได้ไปฮ่องกงกับมาเก๊ามานานมากๆ แล้ว ฮ่องกงน่าจะเกิน 5 ปี ส่วนมาเก๊าอาจจะเป็น 10 ปี
- จุดประสงค์หลักของทริปนี้คือไปไหว้พระเสริมดวง ซึ่งก็ถือว่า Mission Completed ได้ไปทั้งหมด 10 วัด (ฮ่องกง 5 และมาเก๊า 5)
- บางคนอาจจะสงสัยว่าธุรกิจที่ทำอยู่ก็ดู logical & measurable มากๆ ที่ไปมูนี่ขัดรึเปล่า ก็ต้องบอกว่า “After trying every possible logical ways to grow, it’s time for luck to play its role” อะไรที่ควบคุมได้ก็พยายามทำแล้ว ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ก็ให้เป็นเรื่องของฟ้า และถ้าฟ้าจะเปิดให้เราหน่อยมันก็คงจะดี ให้มันกลายเป็น ลิขิตฟ้า + มานะตน 😉
- เท่าที่รู้ คนสาย Tech นี่ก็มูกันเยอะเลย และก็ไม่ใช่แค่สาย Tech เศรษฐีที่มีเชื้อสายจีนก็มูกัน เอาจริงๆ เข้าใจเลย และหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญมากๆ น่าจะเป็นเรื่องความสบายใจด้วย
- ค่าใช้จ่ายครึ่งนึงของทริปนี้หมดน่าจะใช้ไปกับการมู อีก 20% น่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน อีก 20% เป็นช้อปปิ้ง (แทบไม่ได้ซื้อของให้ตัวเอง 😂) และอีก 10% เป็นการเดินทาง
- Business Model สายมูนี้เป็นอะไรที่น่าศึกษาและเอามาปรับใช้มาก คือมันอยู่เหนือคำว่า Influence และ Authority ไปแล้ว มันเป็นเรื่องของ Faith เลย คนพร้อมจ่ายโดยไม่ตั้งคำถามกับความคุ้มค่าในปัจจุบัน เพราะเชื่อและศรัทธาว่าในอนาคต มันจะได้กลับมามากขึ้นแบบทวีคูณ (Feeling เหมือน Crypto ในบางช่วง 😅)
- เวลาเข้าวัด ตอนจะก้าวข้าวธรณีประตูให้ก้าวด้วยเท้าซ้าย ตอนจะออกให้ก้าวด้วยเท้าขวา ตอนปักธูปให้ปังด้วยมือซ้าย
- ทริปนี้ ได้ปี่เซียะมา 1 คู่ เจ้า 2 หน่อ ช่วยวิ่งหาเงินหาทองหาโชคหาลาภให้เจ้าของด้วยนะ 😂
- ที่ฮ่องกง เราสามารถใช้เรื่องฮวงจุ้ยเป็นเหตุผลในการฟ้องร้องได้ ถ้าตึกตรงข้ามเราออกแบบอะไรที่ทำให้ฮวงจุ้ยเราไม่ดี เราสามารถลุยได้
- Verbally closed deal ได้ 1 deal จากทริปนี้ งาน MITCON2024 ได้ลูกค้าเพิ่ม (อย่างน้อย) อีก 1 รายแล้ว 😎
- สงสัยมานานมากว่าคำว่า อึ่มโก้ยและโต๋เจ๋ที่แปลว่าขอบคุณเหมือนกันในภาษากวางตุ้งใช้ต่างกันยังไง ทริปนี้เข้าใจแล้ว อึ่มโก้ยใช้ขอบคุณที่ช่วย ส่วนโต๋เจ๋ใช้ขอบคุณที่ให้
- อันนี้รู้และทำมานานแล้ว แต่เอามาแชร์ เผื่อมีคนไม่รู้ เวลาไปร้านอาหาร แล้วอยากขอบคุณบริการที่รินชาให้และอยากขอบคุณแบบ Local ให้ใช้ 2 นิ้ว นิ้วชี้กับนิ้วกลาง เคาะโต๊ะ 2 ที
- การคุยกับชาวต่างชาติแล้วพูดกับเขาด้วยภาษาของเขาได้บ้าง แค่สวัสดี ขอบคุณ ก็ยังดี จะทำให้เขาเป็นมิตรกับเรามากขึ้น
- ฮ่องกงคือ Food Paradise จริงๆ อะไรๆ ก็อร่อยไปหมด 😋
- อาการที่ฮ่องกงจานค่อนข้างใหญ่ เวลาสั่งต้องระวังกินไม่หมด (ผมกินไม่เหลือ 😂)
- ปริมาณที่มากก็มาพร้อมกับราคาที่สูงด้วยเช่นกัน
- ไปเจอ Combination ที่น่าสนใจและไม่เคยลองมาก่อนที่ร้าน Man Mo คือการจับคู่ Dimsum กับ Wine ถ้าลองเอา Wine ไป Pair กับ Finger Food/Appetizer แบบไทยๆ แล้วทำรสชาติให้ทั้งคนไทยและเทศเข้าถึงได้ก็อาจจะน่าสนใจ คือเอาไวน์นำ อาหารตาม
- Lau Haa Hotpot คือการเดินหาที่กินแบบ Random ที่ดีที่สุดในทริปนี้ ถ้าดูเผินๆ จากทางเข้า มันก็แค่ร้านอาหารจีนร้านนึง แต่พอได้ลงไปชั้นใต้ดินและผ่านประตูไปปุ๊ป มันคือสวรรค์ของคนชอบกิน Hotpot เลย บรรยากาศดี อาหารอร่อยทุกอย่าง ที่อร่อยเป็นพิเศษคือของทอดที่กรอบนอก ฉ่ำกลาง นุ่มในสุดๆ
- ทริปนึ้กินน้อยมื้อ แต่แต่ละมื้อที่กินคือกินจนตัวจะแตกแบบไม่คุมอาหารเลย เป็นอีกครั้งที่ทำให้รู้ตัวว่าชอบกินของอร่อยมากๆ แต่พฤติกรรมแบบนี้กลับไปทำที่ไทยไม่ได้ ต้องข่มใจไว้ใน Routine ของตัวเองเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี อาจจะมีบ้างที่ Cheat จะได้ไม่เครียดเกิน แต่สุดท้ายแล้วเชื่อเสมอว่า Discipline is what sets us free จริงๆ
- มาทริปนึ้แล้วอยากเป็นเจ้าของร้านอาหารเลย แบบคิดไอเดีย ช่วงวางระบบ ไปกินเอง พาลูกค้าไปกิน พาเพื่อนไปกิน แต่ไม่อยาก Operate ไม่เอาเงินเดือน เอาแต่ปันผล ขอเขียนทิ้งไว้เผื่อมีใครมีไอเดียน่าสนใจ จะได้มาชวนผม 😂
- ไกด์แชร์ที่มาของชื่อมาเก๊าให้ฟัง ในอดีตคนโปรตุเกสแล่นเรือมาแถวนี้แล้วหลงทาง แต่เห็นแสงจากแถวๆ ที่มาเก๊าตั้งอยู่ (ตอนนั้นไม่ได้ชื่อนี้) เลยทำให้หาฝั่งเจอ พอถึงฝั่ง ก็เดินขึ้นเขาไปที่ที่แสงอยู่ บริเวณวัดที่มีศาลอาม่าที่คนนิยมไปกัน และพยายามถามคน Local ว่าที่นี่คือที่ไหน คน Local ก็พูดว่านี่คือม่าเก๊า (น่าจะแปลว่าศาลอาม่ามั้งนะครับ) ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชาวต่างชาติก็รู้จักมาเก๊าในนามมาเก๊า (ถ้าไป Search Google ดู อาจจะเห็น Story แบบอื่นนะ)
- คนมาเก๊ากว่า 80% (ประชากรราวๆ 550,000 คน) ทำงานในคาสิโน
- เงินในมาเก๊าสะพัดกว่าวันละ 1,000 ล้านเหรียญฮ่องกง และคาสิโนในมาเก๊าจ่ายภาษีเข้ารัฐบาลจีนกลาง 38%
- ในจีนและฮ่องกง การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย คนอยากเล่นเลยต้องไปมาเก๊า
- มาเก๊าเป็นตัวอย่างชั้นดีของการหา Profitable Niche ที่ทำทุกอย่างเป็นระบบ มี Regulation ชัดเจน และมีการจัดสรรผลประโยชน์ที่ทุกฝ่ายพอใจ จนทำให้เปลี่ยนเมืองเป็น Money-making Machine และที่สำคัญเป็น Monopoly ในย่านนี้ได้
จบแล้ว! การเขียนแชร์ประสบการณ์ 4 วันในฮ่องกงและมาเก๊า
‘Til food and luck reunite us again 😁