มีร้านชาบูใหม่ชื่อ Hitori มาแนะนำครับ อยู่ใน Paragon ชั้น G ตรงข้าม MK เลย
ช่วงต้นๆ ผมขอเล่าเป็นประสบการณ์การกิน และช่วงหลัง ผมจะมาวิเคราะห์การทำธุรกิจของพวกเขาเพิ่มเติมให้ได้อ่านนะครับ (คอนเทนต์นี้จะได้มีสาระบ้างครับ 😂)
แชร์ประสบการณ์การกิน HITORI Shabu
รู้เลยว่าดีแน่ เพราะอยู่ในเครือของ Maguro ร้านโปรดของผม
ตอนไปกินได้ลองกินหลายๆ แบบเลย ทั้งหมูและเนื้อ
ถ้าเป็นเนื้อ Tier เริ่มต้น สำหรับผมคือเฉยๆ (เฉยๆ นี่คือโอเคนะ แต่อาจจะไม่ใช่เหตุผลที่จะกลับมาซ้ำ)
แต่พอได้ลองเนื้อ A5 ปุ๊ป อยากกลับมาซ้ำทันที 😂 คือมันดีมาก ทั้งในเชิงคุณภาพและราคา คืออร่อยและราคาไม่แพง รู้สึกละลายในปากมากๆ เลย พูดแล้วก็อยากกินอีก 🤤 (ลองไปซูมดูลายเนื้อในรูปได้)
หรือถ้าใครไม่ใช่สายเนื้อ ก็มีหมูให้กิน อร่อยแล้วก็ราคาดีเหมือนกัน
ที่นี่เค้าจะขายเป็นเซต คือมีน้ำซุป ข้าว เนื้อ หอยเป่าฮื้อ และก็ไอติม ถ้าใครยังไม่อิ่มก็สามารถสั่ง A la carte (เฉพาะเนื้อสัตว์ หรือผัก) ได้
จุดเด่นอีกอย่างคือ “1 คน 1 หม้อ” จะไปกินกับเพื่อนแล้วเลือกสั่งที่ตัวเองอยากกิน หรือจะไปกินคนเดียวได้ ไม่ต้องกลัว Awkward
ร้านนี้เราปรุงเองได้ตั้งแต่ตอนน้ำซุปเลย อย่างถ้าใครกินน้ำดำตอนที่ปรุงซุป แนะนำให้ระวังจะใส่น้ำตาลเยอะเกินไป เพราะน้ำซุปที่เขาให้มารสชาติค่อนข้างหวานอยู่แล้ว อาจจะลองใส่น้อยๆ แล้วค่อยๆ ชิมดูก่อนว่าชอบหวานแค่ไหน
โดยสรุป Hitori ถือเป็นร้าน Premium Shabu ที่ดีมากๆ ร้านนึงเลย คุณภาพดี ราคาคุ้มค่า จะไปคนเดียวหรือไปเป็นกลุ่มก็ได้ ใครเป็นสายชาบูอย่างผม แนะนำให้ไปลองครับ 🙂
วิเคราะห์ธุรกิจ HITORI Shabu
ถ้าบทความนี้เป็นบทความรีวิวแต่เรื่องชาบู ผู้ที่ติดตามเว็บไซต์ของผมก็อาจจะไม่สนใจ 😂 เพราะฉะนั้นผมขออนุญาตเพิ่มเนื้อหาที่วิเคราะห์ธุรกิจของ HITORI Shabu มาให้ด้วยนะครับ 🙂
ผมคิดว่าสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีคือ
1. ทำของราคาสูง ให้ไม่เป็นของราคาแพง
เมนู Top Tier ของร้านนี้คือเนื้อ A5 ในราคาพันปลายๆ (มีเนื้อให้ประมาณ 4-6 ชิ้น ผมจำแน่ๆ ไม่ได้)
ถ้าเทียบกับเมนูอาหารทั่วๆ ไป เมนูอาจจะดูแพง แต่ถ้าเทียบเมนูนี้กับร้านอื่นๆ ที่ขายเนื้อ A5 เหมือนกัน ราคาและคุณภาพของร้าน HITORI Shabu ถือว่าดี
เพราะฉะนั้น เวลาคนมากิน คนก็จะไม่รู้สึกว่าร้านนี้เป็นร้านที่ขายของแพง ว่าง่ายๆ คือคนจะรู้สึกว่าร้านนี้เป็นเป็นขายที่ขายของราคาสูง แต่ราคาสูงนี้เป็นราคาที่เหมาะสม
2. ทำหม้อส่วนบุคคล
ผมคิดว่า Insights ที่เขาอาจจะได้มาตอนทำ Research คือคนแต่ละคนมีวิธีการกินชาบูไม่เหมือนกัน และชอบเนื้อในรูปแบบที่ต่างกัน
นอกจากนั้นแล้ว อาจจะมีคนที่อยากจะ Enjoy Experience ของการกินชาบูคนเดียว การไปนั่งกินชาบูหม้อใหญ่ๆ ที่โต๊ะสำหรับ 4 คน อาจจะทำให้รู้สึกแปลกๆ
การทำหม้อแบบ 1 หม้อ 1 คนแบบนี้ทำให้พวกเขามีโอกาสได้ลูกค้าเพิ่ม คือมากินเป็นกลุ่มก็ได้ มากินคนเดียวก็ดี
3. การ Diversity Port ของ MAGURO Group
เจ้าของร้านอาหาร HITORI Shabu คือ Maguro (ที่ขายอาหารญี่ปุ่น เช่นซูชิ ซาชิมิ)
การที่เขาแตกไลน์มาขาย Shabu (และเท่าที่ผมรู้คือเขามีร้านอื่นด้วยคือ SSamthing Together ที่ขายปิ้งย่างเกาหลี) ทำให้เขากระจายความเสี่ยง แต่ยังคงอยู่ในอุตสาหกรรมที่พวกเขาเชี่ยวชาญอยู่
คือวันไหนที่อาหารญี่ปุ่นแบบทั่วๆ ไปมีปัญหา (เช่นมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ราคาวัตถุดิบอย่าง Salmon มีราคาสูงขึ้น) เขายังมีธุรกิจอื่นๆ อยู่
สรุป
และนี่ก็คือการแชร์ประสบการณ์และวิเคราะห์ธุรกิจของ HITORI Shabu แบบคร่าวๆ นะครับ ใครสนใจ ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่อได้ที่ Facebook Page ของพวกเขาเลยครับ