เกริ่นก่อนว่า Stripe คือบริการ Payment Gateway สำหรับธุรกิจที่อยากรับชำระเงินที่ก่อตั้งโดยสองพี่น้อง Collison
ซึ่ง Stripe นั้นเป็น Backbone สำคัญให้กับบริษัทดังๆ อย่าง Amazon, Google, Zoom และอื่นๆ อีกเป็นแสนบริษัท
สิ่งที่ทำให้ Stripe ประสบความสำเร็จนั้นคือความง่าย (แทบจะ Plug & Play ได้เลย ไม่ต้องรอขั้นตอนนาน – ปีนี้พึ่งเปิดบัญชีธนาคารสิงคโปร์ไป ใช้เวลาเป็นเดือน แถมยังมีขั้นตอนเยอะมาก) และ Stripe เป็น Payment Gateway ที่ให้ Seemless Experience เหมือนกับ Omise ที่คนคุ้นเคยกันดี คือสามารถกรอกรายละเอียดบัตรเครดิตจบในหน้า Product ได้เลย ไม่ต้องเด้งไปหน้าอื่นๆ เพื่อ Verify ให้วุ่นวาย
นอกจากนั้นแล้ว Stripe ยังเชื่อมต่อกับ Solution ที่หลากหลายมากๆ โดยเฉพาะ Solution ที่เป็น SaaS (Software as a service)
ซึ่งมันฟังดูว้าวใช่ไหม?
แต่ที่ผ่านมา คนสาย Tech / Digital อย่างเราๆ นั้นได้แต่มองตาปริบๆ
คือหลายๆ ครั้ง Solution ที่ผมอยากใช้ดันเชื่อม Payment Gateway อยู่แค่ 2 เจ้าคือ Paypal และ Stripe (นี่สบถในใจมาไม่ต่ำกว่า 50 รอบได้ คือเห็นซอฟต์แวร์แล้วน่าใช้มาก แต่พอไปดู Payment Integration นี่จบเลย -*-)
ที่ผ่านมาเคยลองเปิด Payment Option ไว้แค่ Paypal แล้วกับของที่เคยขาย ปรากฏว่าคนไทยที่เข้ามาซื้อ ถามหาวิธีการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตกันเยอะมาก ซึ่งจริงๆ Paypal มันจ่ายด้วยบัตรได้อยู่ แต่ UX/UI มันไม่ค่อยเอื้อ
เพราะฉะนั้นถ้าจะหา Solution ของต่างประเทศแล้วจะเอามาขายในประเทศด้วย Paypal อย่างเดียว ไม่น่าเวิร์ค (อีกทั้งตอนนี้ Paypal ยังมีประเด็นเรื่องที่ Personal Account จะใช้รับการชำระเงินไม่ได้อีกด้วย)
ซึ่งพอ Stripe เข้ามาไทย หลายๆ สิ่งก็จะเปลี่ยนไป หลังจากนี้ ถ้าเราต้องการ Solution อะไรดีๆ ไม่ว่าจะเป็น Ecommerce Platform, Learning Management System หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ต้องมีการจ่ายเงิน พรมแดนที่ขวางกั้นไว้ ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ว่าแล้วก็กำเงินแล้วไป Shopping Software ที่เคยอยากได้ แต่เมื่อก่อนใช้ไม่ได้ดีกว่า ฮา
บทความนี้เขียนขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
ขอบคุณค่ะ
เขียนปลายปี 2021 ครับ
เท่าที่ทราบ ณ ตอนนี้ (05/2022) ตัว Timeline อาจจะมีการเลื่อนออกไปครับ