อนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้า ในโลกแห่ง AI

Featured Image future of AI World IBE

วันก่อน ผมไปเรียนคลาส IBE6 วันแรก และอยากจะเอาเนื้อหาแรกที่เกี่ยวกับ AI มาสรุปให้ได้อ่านกันครับ

หัวข้อนี้ชื่อว่า Understanding and Winning in the Age of Artificial Intelligence โดย ดร. ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ Founder & CEO, Siammetrics Consulting

เกริ่นเกี่ยวกับอนาคตของ AI

  • AI จะนำมาซึ่งความเจริญแบบที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เป็นความเจริญที่ Disruptive มากๆ คือจะมีคนบางกลุ่มที่เจริญขึ้น รวยขึ้นมากๆ และจะมีคนอีกกลุ่มใหญ่ๆ ที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไปได้ไม่ดีหรือไม่รอด
  • ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็น Disruption สำคัญ แต่จริงๆ เราก็ผ่านเรื่องเหล่านี้มาแล้ว ตัวอย่างจาก Jeff Bezos ที่ไปออกรายการ Tonight Show ในปี 199x กว่าๆ ที่ตอนนั้นหลายๆ คนหัวเราะเพราะเขาขาดทุนมหาศาล แต่ Jeff เห็นอนาคตว่าเขาจะโตเป็น 10,000%
  • ยุคของ Jeff คือยุค Internet (Web 2) และตอนนี้ Jeff ก็ยังไม่หยุด ซึ่งตอนนี้เขาทุ่มสรรพกำลังของเขามาทำงานเกี่ยวกับเรื่อง AI
  • เป็นไปได้ว่า ปัจจุบันเรากำลังอยู่ใน Turning Point ของโลกอีกครั้ง
  • ตัวอย่างอีกคนคือ Sam Altman ที่เขาพูดถึง AGI (Artificial General Intelligence) หรือ AI ที่โคตรเก่งว่าอีกไม่กี่ปีมันจะมาแน่ๆ
  • คุณณภัทรคิดว่าเราน่าจะเหลือเวลาประมาณ 3-5 ปีที่จะเปลี่ยนแปลงธุรกิจของเรา

สิ่งที่น่าจะเกิดในอีก 3-5 ปีข้างหน้าในโลกแห่ง AI

  1. The whole thing is not about intelligence. It’s about the speed, cost, modularization, range, and scalability of intelligence หรือ AI มันจะไม่ได้แค่ฉลาด แต่มันจะเร็ว ราคาดี และเอาไปใช้กับสิ่งต่างๆ รอบตัวเราได้หมดเลย
  2. The speed, cost, modularization, range, and scalability of intelligence GIVE RISE to a Workforce Revolution. This is no longer a “Tech of IT Thing” หรือสิ่งที่ AI กำลังเข้ามา Disrupt ไม่ใช่แค่วงการเทคหรือซอฟต์แวร์ แต่มันคือตลาดแรงงานโลกเลย

ในอนาคตเศรษฐกิจจะเป็น AI-driven Economic Landscape

  • มันมีทุนชนิดใหม่ที่เกิดคือทุนทางปัญญา (Intelligence Capital) ที่สามารถขยายตัวแบบคาดการณ์ได้ (Predictable law of scaling) ทุนชนิดนี้ไม่มี Limit ตราบใดที่คนใช้รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร และหลายๆ อย่างจะถูกลงเรื่อยๆ
  • สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ แรงงานอ่วม ซึ่งงานในปัจจุบันกว่า 80% จะหายไป ปัญหาคือสังคมหรือเจ้าของธุรกิจจะสามารถสร้างงานใหม่ขึ้นมาได้ทันรึเปล่า
  • ความไม่เท่าเทียมจะเกิดขึ้นและต้องได้รับการดูแล
  • อเมริกาเป็นผู้ดำทางด้าน AI และกำลังเล่นเกมรุกหนักมาก และไม่เป็นผลดีกับเราที่เน้นการส่งออก สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นคืออเมริกาและประเทศที่เจริญแล้ว (และ Adopt AI ได้เร็ว) จะมีขุมกำลังในการผลิตใหม่ และหลายๆ อย่างอาจจะไม่เหมือนเดิม
  • กลับมาที่ประเทศไทย ทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้อาการเราค่อนข้างหนัก ตลาดเล็กลง คนชราภาพ เด็กเกิดใหม่น้อย หนี้สูง

สิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในปี 1-2 ปีข้างหน้า (ไม่งั้นเราจะไม่รอด)

  • Say Goodbye กับงานเก่าๆ และวิธีการทำงานเก่าๆ: ปัจจุบันไม่มีอะไรที่ Stable จริงๆ แล้ว สิ่งที่ควรถูกทำลายคือ “งาน” แต่ไม่ใช่ “แรงงาน” คือต้องทำยังไงให้แรงงานมนุษย์มีความหมายและ Generate Value จริงๆ
  • Say Hello กับ AI Tools และ AI Agents: ใช้งานเครื่องมือ AI หรือพยายามใช้ AI เหมือนเป็นพนักงานเพื่อ Automate งานที่ AI ช่วยทำได้
  • Say Nice to Meet You to yourself: ต้องคุยกับตัวเองว่าจะเราจะทำอะไรกับตัวเองวันนี้ พยายามทลายขอบเขตของตัวเอง และทำให้เราในพรุ่งนี้เป็นคนที่เจ๋งกว่าเดิม

สรุป

โดยสรุป ในยุคแห่ง AI ใน อนาคต สิ่งที่เราควรทำคือการ 1. Embrace Cyborg Mentality 2. Embrace Human Factor (ไม่ต้องเก่งสุด ฉลาดสุด แต่ท้ายสุดเรายังชนะ รวย และมีสุขได้ คือเรามีความสมบูรณ์ในความไม่สมบูรณ์ได้)

หวังว่าคอนเทนต์นี้จะเป็นประโยชน์ครับ! 🙂

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top