Data Engineer คืออาชีพที่เป็นที่ต้องการสูง!
Social Media เก็บ Data ของเราตลอดเวลา รู้หมดเราอยากได้อะไร!
คอร์ส Data Flash Sale ลงทะเบียนด่วน!
คุณอาจจะเคยเห็นข่าวพาดหัว โฆษณาผ่านตากับที่ผมได้เขียนไว้ข้างต้นมาบ้าง แล้วคงจะรู้สึกได้ว่าในยุคสมัยนี้ “อะไรๆ ก็ดาต้า!”
ซึ่งพอพูดถึงเรื่องการสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดี (Employee Experience) และ สร้างสายสัมพันธ์ให้พนักงานมีความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement) แล้ว การเอา Data มาใช้ก็ช่วยทำให้ชีวิตการทำงานของพนักงานดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสุดท้ายแล้ว เมื่อชีวิตในการทำงานของพนักงานของคุณดี บริษัทและผู้นำอย่างคุณก็จะชีวิตดีตามไปด้วย
ในบทความนี้ ผมขอเอา Input ที่ผมได้จากเว็บไซต์ Happily (ซึ่งผมเองก็เป็นลูกค้าของเขาอยู่) มาเขียนแชร์ให้คุณอ่านถึงแนวคิด เทคนิค และวิธีการสร้าง Employee Experience & Employee Engagement ที่ดีนะครับ
ทำไมต้องใช้ Data เพื่อสร้าง Employee Experience ที่ดี?
เพราะองค์กรนั้นไม่ได้มีแค่ผู้นำ ผู้บริหาร หรือแค่เจ้าของ แต่องค์กรนั้นเป็นแหล่งรวมคนที่ทำงานร่วมกันเพื่อตอบสนองต่อจุดมุ่งหมายทางธุรกิจ การสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดี (Employee Experience) และ สร้างสายสัมพันธ์ให้พนักงานมีความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement) จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยแรงกายแรงใจที่เต็มเปี่ยมของคนทำงาน
และแน่นอนว่า นอกจากจะใช้อารมณ์ ความรู้สึก ในการบริหารงานแล้ว การเอาสิ่งที่จับต้องได้อย่าง “Data” ก็จะเป็นตัวช่วยเป็นรากฐานที่ดีในการพัฒนาสิ่งต่างๆ ได้เช่น Feedback ของพนักงานที่มีต่อบริษัท หรือข้อมูลในเชิง Culture ต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณเอามาสร้างแผนและกำหนดสิ่งที่จะต้องทำ เพื่อทำให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข
วิธีการตัดสินใจโดยใช้ Data ทั้ง 2 วิธี
“การตัดสินใจ” เป็นหนึ่งในงานที่สำคัญที่สุดของผู้บริหาร หรือผู้นำองค์กร ซึ่งวิธีการตัดสินใจนั้นแบ่งง่ายๆ ได้เป็น 2 ประเภทคือ
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative) ที่อิงอยู่บนตัวเลขและข้อมูลสถิติ และการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative) ที่อิงจากข้อมูลเชิงรายละเอียด เช่น บทสัมภาษณ์, ข้อมูล Feedback ต่างๆ รวมไปถึง ข้อมูลจากการสังเกตการณ์โดยผู้เก็บข้อมูล
ในความเห็นของผม ผมคิดว่าข้อมูลทั้ง 2 ส่วนเป็นข้อมูลที่สำคัญที่จะเอามาช่วยประกอบการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับพนักงานได้ โดยที่ไม่มีวิธีไหนดีกว่าวิธีไหนครับ ใช้ทั้งคู่ ดีที่สุดครับ 🙂
แล้วถ้าพูดถึงเรื่อง Employee Engagement ล่ะ?
ถ้าคุณอยากจะสร้างที่ทำงานที่ดี การรู้ถึงระดับความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร (Employee Engagement) นั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดย Infographic ด้านล่างเป็น 12 ขั้นตอนในการเก็บและวิเคราะห์เรื่อง Employee Engagement ที่ผมเอามาจากทีม Happily ครับ
การทำ Employee Engagement ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องการสร้างความสุขให้กับพนักงาน
ข้อมูลจาก Happily ได้บอกได้ว่า การนำข้อมูลเข้ามาช่วยในการตัดสินใจของผู้นำองค์กรนั้น นอกจากจะช่วยในการพัฒนาองค์กรอย่างถูกทิศทาง ตอบสนองความต้องการของพนักงานอย่างถูกจุด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ดึงดูดคนมีฝีมือเข้ามาร่วมงานด้วยแล้วนั้น ยังนำไปสู่ผลประโยชน์ต่อธุรกิจในมุมกว้างมากขึ้นไปอีกด้วย ถ้ามีการปรับการเก็บข้อมูล และนำเอาข้อมูลมาใช้ในกิจกรรมอื่นๆ อีกหลายอย่างได้แก่
- สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ
- เพิ่มพูนผลกำไรที่มากกว่า
- ช่วยในการทำนายเทรนด์ใหม่ๆ
- ช่วยในการจัดการทรัพยากรและต้นทุนอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น
- ทำให้มองเห็นทางเลือกในการดำเนินการแก้ปัญหาใหม่ๆ มากขึ้น
สรุป
การทำงานด้วยตัวคนเดียว เก่งคนเดียว เป็น Lone wolf ในองค์กร จะทำให้คุณไปได้ไกลในระดับหนึ่ง แต่ถ้าอยากจะไปไกลกว่านั้น ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ก็ต้องมีคนมาช่วย
การทำให้คนที่มาช่วยคุณมีความสุขกับการทำงาน มีประสบการณ์กับการทำงานที่ดี สุดท้ายแล้วมันก็จะส่งผลให้งานของคุณและองค์กรของคุณดีขึ้นด้วยเช่นกัน
โดยสรุปก็คือ นอกจากจะใช้ Instinct ในการบริหารคนแล้ว การใช้ Insight จาก Data เพื่อสร้าง Employee Experience & Employee Engagement ที่ดีก็สำคัญไม่แพ้กัน!