นานมาแล้ว เคยมีคนบอกกับผมว่า “คนที่ไม่เก่งภาษา ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนไม่เก่งสักหน่อย คนไม่เก่งภาษาแต่เป็นคนเก่งก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ”
จริงๆ ก็ไม่เถียงครับ แต่มันเป็นเรื่องของ ‘ความน่าจะเป็น'
คนที่เก่งภาษามีโอกาสที่จะเก่งมากกว่า เพราะมีโอกาสเข้าถึงคลังความรู้ต่างๆ มากกว่า (การรู้ภาษาเป็นอีกหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นในการเพิ่มวัตถุดิบในตัว)
ภาษาคือประตูสู่ความรู้
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีคนใช้งานแค่ประมาณ 60 ล้านคน เมื่อมีคนใช้น้อย คลังความรู้ต่างๆ ก็จะมีอยู่จำกัด
เมื่อเปรียบเทียบกับภาษาอื่นๆ เช่นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ที่มีคนใช้งานเป็นพันล้านคน คลังความรู้ของคุณก็จะขยายขนาดไปเป็นทั่วทั้งโลก
เพราะฉะนั้น เมื่อโอกาสต่างๆ มาถึง คนที่เรียนรู้ได้มากกว่า มีวัตถุดิบในตัวมากกว่า ก็จะได้รับโอกาสที่มากกว่า
แล้วควรจะรู้ภาษาอะไร และควรรู้แค่ไหน?
ผมคิดว่าภาษาอังกฤษคือ Basic Requirement ที่ควรจะต้องรู้
อาจจำไม่จำเป็นต้องฟังพูดอ่านเขียนคล่องแคล่วเหมือนเจ้าของภาษา แต่สิ่งที่ควรต้องทำให้ได้คือการอ่านและการฟัง
คือถ้ามีข้อมูลต้องค้นคว้าหาคำตอบ ต้องไม่ลำบากใจที่จะอ่านเนื้อหาหรือฟังต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ
บางคนอาจจะบอกว่า ก็ฉันไม่เคยไปเรียนหรือไปอาศัยอยู่ต่างประเทศนิ แล้วฉันจะเก่งภาษาอังกฤษได้ยังไง?
ผมขอยกคำพูดของไกด์ทัวร์ท้องถิ่นที่เคยพาผมทัวร์ที่เมือง Warsaw ในประเทศ Poland ซึ่งเขาพูดภาษาอังกฤษได้เป๊ะมากๆ เขาบอกว่า “I've never been abroad before. My good english is from my hard work” หรือแปลเป็นไทยว่า “ฉันไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อนเลย ภาษาอังกฤษที่ดีของฉันมาจากการที่ฉันทำงานอย่างหนัก”
นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ผมคิดว่าภาษาจีนก็เป็นอีกภาษาที่สำคัญ (คือเป็น a plus และอาจจะเป็น a must สำหรับหลายๆ คนที่ต้องดีลงานกับคนจีน)
นอกจากนั้นแล้ว ภาษาคอมพิวเตอร์ พวกการเขียดโค้ดก็เป็นภาษาที่สำคัญเช่นเดียวกัน (ปัจจุบันเป็น a plus แต่ในอนาคตจะเป็น a must)
วิธีการเรียนรู้ภาษาต่างๆ
ผมคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุดคือการพาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้คุณต้องใช้ภาษาครับ ไม่ว่าจะเป็นการไปเรียนต่างประเทศ การทำงานกับคนต่างชาติ หรือถ้า 2 เรื่องนี้ยังไกลตัวไป การดูซีรียส์และการฟังเพลงเป็นภาษาที่คุณต้องการจะฝึก หรือพยายามอ่านเนื้อหาเป็นภาษาที่คุณต้องการจะฝึกในทุกๆ วันก็จะช่วยคุณได้ครับ
ผมเคยเขียนบทความ อยากเก่งภาษาอังกฤษ? มาเรียนรู้วิธีฝึกภาษาอังกฤษให้ได้ผลกัน! ไว้ เข้าไปอ่านได้ที่ลิงก์นี้เลยครับ
สรุป
ภาษาสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้อยู่ 2 แบบครับ มันสามารถเปลี่ยนแปลงกำแพงก็ได้ หรือเปลี่ยนเป็นสะพานก็ได้
ถ้าคุณคิดว่าภาษาไม่สำคัญ ไม่พยายามฝึกฝน มันจะกลายเป็นกำแพงทำให้คุณไม่สามารถก้าวข้ามไปเจอองค์ความรู้ที่จำเป็น
ถ้าคุณคิดว่าภาษาสำคัญ พยายามฝึกฝนอยู่เสมอ มันจะกลายเป็นสะพานทำให้คุณก้าวข้ามสิ่งต่างๆ ได้อย่างไม่รู้จบ
อยากให้ภาษากลายร่างเป็นอะไร คุณเลือกได้ครับ 🙂
