เมื่อก่อนตอนที่ผมเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ ผมมีแนวคิดที่ว่า “เราจะสำเร็จหรือล้มเหลวอยู่ที่ตัวเรา”
เวลาตั้งใจทำอะไรแล้วอย่างเต็มที่แล้วสำเร็จ ก็จะรู้สึก Proud รู้สึกตัวใหญ่ขึ้น มี Ego ที่มากขึ้น
ในทางกลับกัน พอทำอะไรเต็มที่แล้วล้มเหลว ก็จะรู้สึก Down และรู้สึกว่าทำไมตัวเองไม่เก่งเลย เรียกได้ว่าด้เจอกับ Imposter Syndrome เป็นระยะ
แต่พอเจอความสำเร็จและล้มเหลวสลับๆ กันไป ผมแอบรู้สึกว่า Mindset แบบนี้ก็ทำให้เครียดอยู่เหมือนกัน เพราะอารมณ์มันจะ Swing ขึ้นลงตลอด (ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี เพราะการจัดการอารมณ์และความรู้สึกเป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับการเป็นผู้ประกอบการ)
ช่วง 4-5 ปีมานี้ ผมได้รู้จักกับหลักคิดเพิ่มมาแบบนึง ทำให้ผมปรับ Mindset แล้วทำให้ผมจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น เลยอยากจะเอาหลักคิดที่ว่านี้มาฝากครับ
หลักคิดที่ว่าคือหลัก “ฟ้า ดิน คน” แบ่งเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน
หลัก ฟ้า ดิน คน
หลักของฟ้า
หลักของฟ้าบอกว่า คนเราเกิดมาพร้อมกับดวงชะตาที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะทำอะไรดวงชะตาจากฟ้านี้จะอยู่กับเราไปตลอด
ซึ่งถ้าตามหลักศาสตร์ของจีน ถ้าอยากศึกษาเพิ่มเติม อยากให้คุณไปศึกษาเรื่อง Bazi (ปาจื้อ) เพิ่มเติมครับ
ถ้าเราสำเร็จ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฟ้าช่วยเหลือเรา เราจะได้ไม่หยิ่งผยองเกินไป
ถ้าเราล้มเหลว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฟ้ากำหนดมาแล้ว สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้
หลักของดิน
หลักของดินบอกว่า เราสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราได้ เพื่อให้สิ่งแวดล้อมเอื้อกับเราไม่ได้มากที่สุด
ซึ่งถ้าตามหลักศาสตร์ของจีน ถ้าอยากศึกษาเพิ่มเติม อยากให้คุณไปศึกษาเรื่อง Fengshui (ฮวงจุ้ย) เพิ่มเติมครับ
ถ้าเราสำเร็จ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะดินดี สภาพแวดล้อมเราดี มีคนช่วยเหลือเราเยอะ
ถ้าเราล้มเหลว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะดินไม่ดี เราจะได้กลับไปเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของเรา
หลักของคน
หลักของคนบอกว่า การกระทำของเราเป็นสิ่งที่สำคัญ ยิ่งเราตั้งใจ ยิ่งเราพยายามมาก โอกาสที่จะสำเร็จก็จะยิ่งมีมาก
ถ้าเราสำเร็จ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเรามีความมุมานะ ตั้งใจทำ
ถ้าเราล้มเหลว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเรายังตั้งใจไม่มากพอ พยายามไม่มากพอ หรือยังรู้ไม่มากพอ
รวมหลัก ฟ้า ดิน คน
ซึ่งเวลามองสิ่งต่างๆ เราควรจะรวมทั้งฟ้า ดิน คน เข้าด้วยกัน
สุดท้ายแล้ว ถ้าเราสำเร็จ นั่นเพราะฟ้ากำหนดมา สภาพแวดล้อมเราดี และเรามีความพยายามที่มากพอ เราจะได้ไม่งมงายเกินไปและไม่หยิ่งผยองเกินงาม
และถ้าเราล้มเหลว นั่นก็เพราะฟ้าไม่มีใจ สภาพแวดล้อมไม่เอื้อ และเรายังพยายามไม่มากพอ เราจะได้ไม่เครียดจนเกินไป เพราะไม่ใช่ทุกอย่างที่อยู่ในความควบคุมของเรา และในขณะเดียวกัน เราจะได้ไม่ล้มเลิก เพราะสิ่งต่างๆ ยังพอที่จะเปลี่ยนแปลงได้
หลักการ 3 อย่างนี้ เมื่อผสานรวมกัน จะทำให้เราจัดการกับความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น มองสิ่งต่างๆ ในทางที่สายกลางมากขึ้น จิตใจ Swing น้อยลง เมื่อจิตใจ Swing น้อยลง สุขภาพจิตของเราก็จะดีขึ้น
ลองเอาหลักการคิดนี้ไปปรับใช้กับตัวเองกันได้ครับ 🙂