คุณเป็นคนที่ชอบเอาเรื่องต่างๆ ที่ทำให้คุณ “เครียด” มาคิดอยู่เป็นประจำรึเปล่า?
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องความสัมพันธ์ หรือเรื่องสำคัญอื่นๆ ในชีวิตของคุณ จะตอนตื่น ตอนกินข้าว ตอนนอน หรือบางทีก็… ตอนฝัน คุณมักจะเก็บสิ่งเหล่านั้นมาหมุนเวียนในหัวของคุณอยู่ตลอด
และเพราะ You are what you think (อ่านเพิ่มเติม: กฏแห่งแรงดึงดูด หรือ Law of Attraction) ยิ่งเรื่องเครียดๆ มาอยู่ในสมองมากเท่าไหร่ ชีวิตจริงของคุณก็จะยิ่งเครียดขึ้นมากเท่านั้น
แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่าการหมกมุ่นแบบนี้มันไม่ดี แต่คุณก็ “ช่างแม่ง” (หรือถ้าภาษาสุภาพหน่อยก็ “ปล่อยวาง”) สิ่งเหล่านั้นไม่ได้สักที
ถ้าคุณกำลังเผชิญสถานการณ์แบบนี้อยู่ ในบทความนี้ผมจะมาแชร์วิธีการ 3 วิธีที่จะช่วยให้คุณ “ช่างแม่ง” ได้ดียิ่งขึ้นนะครับ
ถ้าพร้อมแล้ว มา “ช่างแม่ง” กันครับ 🙂
3 เทคนิคในการช่างแม่ง
1. เบี่ยงเบนความสนใจ
ถ้าคุณยังไม่สามารถช่างแม่งได้ เป็นไปได้มากว่าสมองหรือร่างกายของคุณอาจจะกำลัง “ว่างเกินไป”
ผมเคยคุยกับพี่หมู วรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้ง Officemate และเคยถามพี่เขาว่าพี่เขามีวิธีการจัดการกับความล้มเหลว ความผิดหวัง และความวุ่นวายต่างๆ ยังไง
คำตอบที่ผมได้รับมาคือ “ก็หาโปรเจคต์ใหม่ๆ หรือหาอะไรทำให้มันยุ่งๆ”
เพราะยิ่งยุ่ง ก็จะยิ่งทำให้ไม่มีเวลาไปนั่งคิดเรื่องอื่น
ซึ่งผมคิดว่าจริงมากๆ
เวลาที่ผมเครียด ผมเองก็มีวิธีการเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองอยู่หลายอย่างเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การนั่งเขียนบทความ ดูหนังสนุกๆ หรือไม่ก็ออกไป Hangout กับเพื่อนเก่าไม่ก็เพื่อนใหม่ ให้ได้พบเจอบรรยากาศใหม่ๆ บ้าง
ยิ่งเราว่างเท่าไหร่ สมองของเราวิ่งมีพื้นที่ให้ความคิดเครียดๆ วิ่งเล่นมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นอยากต้องทำให้พื้นที่เหลือน้อยๆ ด้วยการให้สิ่งอื่นๆ มาวิ่งเล่นในหัวคุณบ้างนะครับ
2. เลิกรับสื่อผ่าน Social Media
Social Media เป็นเหมือนดาบสองคมที่ให้ทั้งคุณและโทษ
แต่ในช่วงเวลาที่คุณมีความเครียดจนอยากที่จะช่างแม่ง ผมแนะนำให้คุณลองทำตัวเองให้ห่างจาก Social Media ไปก่อนครับ
มีผลการวิจัยมากมายที่บอกว่า Social Media เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้คนเครียดขึ้น
ซึ่งแน่นอนว่าการเลิกใช้งาน Social Media นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ถ้าตั้งใจ ยังพอทำได้อยู่ครับ ผมเคยเขียนบทความแชร์ประสบการณ์ในการเลิกเสพติด Facebook ไว้ คุณสามารถเข้าไปอ่านดูได้ที่นี่ครับ
3. นั่งสมาธิ
ถ้าปัจจัยจากภายนอกยังไม่สามารถช่วยให้คุณช่างแม่งได้ วิธีอีกวิธีที่แนะนำคือการมาหาความสงบจากภายใน
ทุกครั้งที่ผมนั่งสมาธิ ผมจะต้องต่อสู้กับความคิดที่วอกแว่กของผมในขณะที่นั่งสมาธิทุกๆ ครั้ง ซึ่งผมไม่ชนะความคิดเหล่านั้นทุกครั้ง แต่ทุกครั้งที่ได้นั่งสมาธิ แม้จะเป็นเวลาไม่นาน อาจจะแค่ 10-15 นาที ผมรู้สึกว่าพอดึงสติตัวเองกลับมาโลกปัจจุบัน จิตใจผมสงบขึ้นและความเครียดต่างๆ ก็จะหายไปเยอะเลย
ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่กับการนั่งสมาธิ ผมแนะนำให้คุณลองนั่งสมาธิสั้นๆ ก่อน พร้อมกับใช้แอปอย่าง Headspace หรือ Brain.fm ช่วยด้วย จะทำให้คุณสามารถเริ่มต้นนั่งสมาธิได้ง่ายขึ้นครับ
สรุป
และนี่คือเทคนิคการ “ช่างแม่ง” ที่ผมอยากจะแนะนำนะครับ
สิ่งที่อยากจะฝากไว้คือเราสามารถ “ช่างแม่ง” ได้ แต่หลายๆ เรื่องเราก็ไม่สามารถ “ช่างมัน” ได้นะครับ (มีพี่ท่านนึงเคยแชร์คำว่าช่างแม่งแต่ไม่ช่างมันนี้กับผมมาใน Clubhouse แล้วผมเห็นด้วยมากๆ แต่ผมดันจำไม่ได้ว่าพี่ท่านไหนบอกประโยคนี้มา ถ้าบังเอิญพี่ท่านนั้นผ่านมาเห็น มาเตือนผมได้นะครับ)
สุดท้ายถ้ามันสำคัญกับชีวิตคุณจริงๆ ยังไงคุณก็ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านั้น เพียงแต่ว่าการเผชิญหน้าของคุณจะเผชิญหน้าด้วยสภาพจิตใจที่พร้อมขึ้นครับ
ถ้าชีวิตของคุณมีเรื่องให้คิด ให้เครียดเยอะ มาลองฝึก “ช่างแม่ง” ดูนะครับ 🙂
