พร้อมเผยแพร่พลังบวกนะ ไม่ใช่พร้อมที่จะบวกสู้กับคนอื่นตลอดเวลา 😂
ผู้นำ ผู้บริหาร ที่ดี จะต้องเป็นคนที่เคร่งขรึม ต้องดูแข็งแกร่ง มีอำนาจ ตลอดเวลารึเปล่า?
คำตอบก็คือไม่ ผู้นำสามารถ “อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ชัดเจนแต่ไม่ทิ่มแทง” ได้
ซึ่งผมมี First-hand Experience ในเรื่องนี้กับทางคุณหนึ่ง อภิรดา ผู้เขียนหนังสือ Good Vibe Leader มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยที่คุณหนึ่งเป็นผู้บริหารที่ Cigna และปัจจุบันคือที่ Dentsu Merkle
คุณหนึ่งเพิ่งเขียนหนังสือชื่อว่า “Good Vibe Leader” ขึ้นมา ซึ่งผมคิดว่าชื่อหนังสือเล่มนี้มันเป็นอะไรที่ตรงกับ Character คุณหนึ่งมากกกกก (ใครที่เคยคุยกับคุณหนึ่งจะรู้ดี แบบนุ่มนิ่ม ตะมุตะมิ 😂 แต่ก็มีความมุ่งมั่นชัดเจนในการทำงาน)
ผู้นำคนไหนที่อยากเสริม “Good Vibe” ให้กับตัวเอง ต้องหามาอ่าน!
ผมขอเอาเนื้อหาที่น่าสนใจมาสรุปเป็นน้ำจิ้มให้ก่อนนะครับ 🙂
- เป็นผู้นำต้องพร้อมบวก ไม่ใช่พาทีมสู้กับคนอื่นไปทั่ว ⚔ แต่เป็นผู้นำพลังบวกเป็นผู้นำที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นทีมและคนที่เกี่ยวข้องให้คิดนอกกรอบและแก้ไขปัญหาด้วย “ใจที่เบา” คือทำให้คนอยากทำเพราะอยากทำ ไม่ใช่อยากทำเพราะถูกกดดัน
- สร้างอำนาจบารมีดีกว่าแค่สร้างแรงกดดัน และสร้างพลังบวกดีกว่าแค่เป็นคนใจดี
- ถ้าอยากดึงดูดคนเก่งให้มาทำงานด้วยต้องรู้จักแม่เหล็ก 3 ตัว 1. Vision (วิสัยทัศน์) 2. Culture (วัฒนธรรม) 3. Empowerment (การเสริมอำนาจ)
- เราอาจจะคุ้นๆ กับคำที่ว่า Lead by Example ดี คือผู้นำทำให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่มันมีอีกวิธีที่ได้ผลเหมือนกันคือ Lead with Question ผู้นำต้องรู้จักตั้งคำถาม บางครั้งคำถามที่ดีอาจจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างและดีกว่าก็ได้
- Empathy ที่ดีต้องสมดุล คือต้องมีความเข้าอกเข้าใจ แต่ไม่ได้เห็นอกเห็นใจเกินเหตุ
- การถามคำถามปลายเปิด จะทำให้เราได้ข้อมูลเชิงลึก เวลาอยากเข้าใจใคร อย่าแค่ถาม Yes No
- อยากสังเกตใครให้เข้าใจมากขึ้น ต้องรู้จัก AEIOU (ที่ไม่ใช่ AEIOU หยุด! 😂) A = Activities (เขาทำกิจกรรมแบบไหน, E = Environments (สภาพแวดล้อมเขาเป็นอย่างไร), I = Interactions (เขาปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นแบบไหน), O = Objects (ของที่เขาใช้เป็นอย่างไร) & U = User (บุคลิก/ค่านิยมของเขาเป็นอย่างไร)
- 3 กลยุทธ์สู่ความร่วมมือไร้ขีดจำกัด 1. สนับสนุนให้ทีมเรียนรู้และทดลอง 2. สนับสนุนให้ทีมเป็นเจ้าหนูจำไม กระตุ้นให้ตั้งคำถาม 3. เปิดช่องให้แสดงจุดอ่อนและขอความช่วยเหลือ
- สิ่งที่ดีกว่าการที่ผู้นำหรือหัวหน้าบอกลูกน้องว่า “ประตูห้องของพี่เปิดอยู่เสมอ ถ้าอยากปรึกษาอะไร” คือการไม่ต้องมีประตูนั้นเลยดีกว่า
- วิธีการปล่อยให้ทีมมีอิสระ กล้าทำอะไรนอกกรอบ แต่ยังคงเคารพเราคือ “จริงใจ ใส่ใจ และจริงจัง”
- Framework การให้ Feedback ที่น่าสนใจ คือ COINS ที่ย่อมาจาก Context, Observations, Impact Perceived, Next & Stay และเวลาให้ Feedback การใช้คำว่า “และ” อย่างต่อเนื่อง ดีกว่าการที่มีคำว่า “แต่” มาคั่น
- ผู้นำมักถูกคาดหวังให้เป็นเดอะแบก ซึ่งการเป็นเดอะแบกก่อให้เกิดความกดดัน ซึ่งการมีความโอบอ้อมอารีต่อตัวเอง (Self-compassion) เป็นเรื่องจำเป็น
- ผู้นำที่แท้จริงไม่ได้เจิดจรัสด้วยการเปล่งประกายเหนือผู้อื่น แต่ด้วยการช่วยให้ผู้อื่นได้ส่องแสง (True leaders shine not by outshining others, but by helping others shine)
- ท้ายบททุกบทในหนังสือเล่มนี้จะมี Quote เท่ๆ กำกับไว้เสมอ ในฐานะคนที่เจ้าบทเจ้ากลอนเหมือนกัน ผมคิดว่าคุณหนึ่งใช้คำพูดได้สละสลวยทุกบทเลย
- นอกจาก IQ และ EQ แล้ว ผู้นำยุคใหม่ยังควรต้องมี CQ (Creative Quotient) หรือความฉลาดทางด้านความคิดสร้างสรรค์ด้วยเช่นกัน
- อยากแก้ปัญหาให้ได้ดีต้องนอนให้พอ 7-8 ชั่วโมงต่อวันพอนะ ถ้ามากกว่านี้เรียกว่าเกินพอ 😂
- ผู้นำที่สร้างสรรค์มีทั้งหมด 7 แบบ 1. Purposeful Leadership 2. Strategy Leadership 3. Collaborative Leadership 4. Inclusive Leadership 5. Innovative Leadership 6. Adaptive Leadership 7. Growth Leadership อยากรู้ว่าแต่ละแบบเป็นยังไง ลองไปอ่านในหนังสือดูครับ 😉
- สิ่งที่ผู้นำพลังบวกไม่ควรมองข้ามคือความสุขและความหมายของการมีชีวิตอยู่อย่างยั่งยืน
ใครที่อยากเป็นผู้นำพลังบวก แนะนำให้หาหนังสือ Good Vibe Leader เล่มนี้มาอ่านดูครับ 🙂
สุดท้าย ขอบคุณคุณหนึ่งสำหรับหนังสือGood Vibe Leader ที่สร้างพลังบวกเล่มนี้ครับ