Good Connection เปรียบเสมือนอากาศดีๆ รอบตัวเรา ที่เราอยากจะรวบรวมใส่ถุงเก็บไว้กับตัว และอากาศดีๆ เหล่านี้ที่เราเก็บไว้ วันนึงมันจะสามารถเปลี่ยนสถานะกลายเป็นโอกาสดีๆ ได้
ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม การมี Good Connection ช่วยให้เรื่องที่ต้องใช้เวลามากกลายเป็นใช้เวลาน้อย เรื่องที่ยากกลายเป็นเรื่องที่ง่าย และเรื่องที่มองไม่เห็นทางไปกลายเป็นเรื่องที่เห็นแสงรำไร
ซึ่งต้องบอกว่าผมเองก็เริ่มจากการไม่มี Connection เหมือนกัน ตอนเรียนจบและเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ อยากจะทำอะไร ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อยากจะขอความช่วยเหลือ ขอคำปรึกษา ก็ไม่รู้จะไปหาขอจากใคร ยิ่ง Connection ที่ตรงกับธุรกิจที่ทำอยู่ตอนนี้ ยิ่งเป็น 0 เลย (ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ทำกิจกรรม ไม่เข้าค่ายอะไรสักเท่าไหร่ 😅)
หลังจากที่ใช้ชีวิตในโลกแห่งการทำงานมาสิบกว่าปี ผมก็พยายามเก็บเล็กผสมน้อย เรียนรู้มาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ที่พอจะมี Connection ที่ดีอยู่พอสมควร เวลาอยากทำอะไร หรือคิด Project อะไรขึ้นมาได้ ก็พอจะรู้ว่าไปคุยกับใครดี ใครบ้างที่เป็น Connection ที่ยินดีที่จะช่วยเหลือเรา
พอมองย้อนกลับไป ก็พบว่าจริงๆ แล้ว Good Connection มันไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่มันต้องสร้างขึ้นมา และมันสร้างได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องอาศัย Privilege อะไรทั้งนั้น
ลองอ่านวิธีการในโพสต์นี้ดูนะครับ จะพยายามเขียนให้ทำให้ได้จริงให้ได้มากที่สุด
Connection คืออะไร?
อาจจะมีคนมองคำว่า Connection ในเชิงลบอยู่ แต่ผมคิดว่า Connection ไม่ใช่การใช้ความสัมพันธ์ที่มีทำสิ่งที่ไม่ดี ทำสิ่งที่ผิดกฏหมาย หรือทำสิ่งที่เราได้ประโยชน์แต่คนอื่นเดือดร้อน
และผมคิดว่า Connection ไม่ใช่การที่เรารู้จักคนแบบทั่วถึง แต่เป็นการรู้จักแบบเข้าถึง คือไม่ใช่ทำความรู้จักไปซะทุกคน เวลามีอะไรที่อยากขอก็ทักไป แต่เป็นการลงทุน ลงแรง ลงเวลาในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์
ผมชอบประโยคนี้ที่เขียนโดยคุณโชคที่เขียนในโพสต์นึงมากๆ เลยขอเอามาตีความหมายต่อ
ผมคิดว่า Connection ที่ดีคือการคบเพื่อ “เป็น” ประโยชน์ ไม่ใช่คบเพื่อ “ผล” ประโยชน์
คำว่าเป็นประโยชน์ (Beneficial) มันเป็นได้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน การพัฒนาตัวเอง ความสบายใจ หรือเรื่องอื่นๆ ในชีวิต คือไม่ได้มีแค่เรื่องผลประโยชน์ (Benefits) มาเป็นเรื่องหลัก
อย่างผมเองก็จะมี Connection ในหลายๆ รูปแบบ
มีทั้งคนที่สามารถทักไปโทรไป ปรึกษาเรื่องงาน หรือขอความช่วยเหลือบางอย่างได้เวลามีปัญหา
มีทั้งคนที่ชอบคุยเทรนด์ อัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ คุยกันทีไรชอบคุยกันเรื่องที่ช่วยพัฒนาตัวเอง
และทั้งคนที่ Connect กันแล้วสบายใจ ไม่ได้เน้นต่อยอดงาน แต่เน้นสนับสนุนกันในเรื่องที่ดีต่อใจ
สำหรับคำว่า Good Connection แล้ว ไม่มีผลประโยชน์ต่อกันไม่เป็นไร แต่ถ้าคบกันแล้ว ไม่เป็นประโยชน์ (ทั้งกับเราและกับเขา) อันนี้ผมคิดว่าไม่ใช่ Good Connection ครับ
วิธีที่ดีในการสร้าง Connection
1. ทำงาน ทำงาน ทำงาน
อาจจะอ่านแล้วดู Cliché แต่ผมคิดว่าข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญจริงๆ
ในตอนที่เราเริ่มต้นทำงาน ยังไม่มีประสบการณ์ ผลงาน หรือชื่อเสียง การจะพยายามไป Connect กับใครอาจจะเป็นการพยายาม Connect อยู่ฝ่ายเดียว
และก็เหมือนกับความรัก ความพยายามในการปรบมือข้างเดียวไม่เคยจะดัง 😂
เพราะ Connection ที่ดีต้องเอื้อกันและกัน เป็นประโยชน์ต่อกันและกันได้
ก่อนจะพยายามหา Good Connection ผมคิดว่าเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าก่อน
ซึ่งคุณค่าไม่ได้จะเกิดขึ้นมาจากการนั่งเฉยๆ แต่เกิดจากการลงมือทำอะไรบางอย่าง
ทำให้เยอะ ทำให้มาก ทำให้ดี แล้วสิ่งที่เราทำจะเริ่มหา Connection ให้กับเรา
ตัวอย่างที่ผมพอจะยกมาได้คือ Connection ของผมกับพี่เก่ง (Creative Talk) ที่ประมาณปี 2015-2016 ผมได้มีโอกาสไปช่วยงานอีเวนต์ Startup Thailand (ที่พี่เก่งเป็นที่ปรึกษาอยู่) ตอนนั้นผมเองก็ใส่เต็มที่มากๆ ก็เลยได้ Connect กับพี่เก่งจากนั้นเรื่อยๆ
พอผมเปิดธุรกิจใหม่ (Content Shifu) พี่เก่งก็ให้โอกาสขึ้นเวที Creative Talk Conference ช่วงปี 2017 ซึ่งผมคิดว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Content Shifu Take Off เลย
2. ช่วยเหลือ
การช่วยเหลือที่ดีที่สุดคือการช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา และมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนที่เราช่วยจะเป็นตำแหน่งสูงกว่า หรือหน้าที่การงานดีกว่าเรา แต่แค่ Make sure ว่าเขาอยากได้ความช่วยเหลือจากเรา หรืออย่างน้อยๆ Appreciate กับสิ่งที่เราทำ
และผมว่าสิ่งสำคัญของการช่วยเพื่อสร้าง Connection คือการช่วยโดยที่ไม่ได้หวังว่าจะได้อะไรตอบแทนในทันทีหรือว่ายังไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่าจะได้อะไรตอบแทน
และในอนาคต ถ้ามีเหตุให้เราต้องอะไรบางอย่างจาก Connection นี้ ผมคิดว่ามันจะง่ายกว่าการที่เราไปพยายาม Make Connection ณ ตอนนั้นเลยมากๆ ครับ
ความช่วยเหลือนึงที่ผมจำได้ไม่ลืมคือตอนเกือบๆ 10 ปีก่อน ที่ผมกำลัง Validate ไอเดียที่เกี่ยวข้องกับการทำ Influencer Marketing และได้ไปขอ Validate ไอเดียกับพี่กระทิง (KBTG) พี่กระทิงก็ Connect พี่เอิร์ธ (Adapter) มาให้คุยด้วย ซึ่งตอนนั้นพี่เอิร์ธเองก็สละเวลามาโทรคุยกับเด็กน้อยอย่างผมในตอนนั้นอยู่นานเลย พี่ทั้ง 2 คนอาจจะจำเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว แต่ผมประทับใจและจำได้ไม่ลืม 😂
3. ออกจากบ้าน
ไปงานอีเวนต์ ไปงาน Community Meetup หรือไปเข้าคลาสต่างๆ
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ถ้าเราได้เจอหน้าค่าตากัน ปฏิสัมพันธ์กันก่อนบนโลกออฟไลน์ การจะคุยกันต่อมันจะง่ายขึ้นกว่าที่แค่ทัก Facebook Messenger หรือทัก LINE ไปมากๆ
แค่ไปงาน 1 งาน แล้วเราได้รู้จักคนใหม่ๆ ที่เป็นคนที่มีจริตตรงกับเราสัก 1-2 คนก็คุ้มแล้ว
ยิ่งถ้าเรามีผลงานในข้อ 1 มาแล้ว จะยิ่งทำให้การพูดคุยกันในงานอีเวนต์ต่างๆ กลายเป็น Connection ที่ดีได้มากขึ้น
ถ้าคุณยังนึกไม่ออกว่าช่วงนี้มีงานอีเวนต์ไหนน่าไป ผมฝากงาน AP Thailand Presents Marketing Insight & Technology Conference 2024 วันที่ 19-20 Sep นี้ (https://www.zipeventapp.com/e/mit2024) ไว้ด้วยนะครับ นอกจากจะได้มาฟังความรู้การตลาดแห่งโลกอนาคตแล้ว ยังจะได้มาเจอคนที่ชอบพัฒนาตัวเองเหมือนกัน รับรองว่าเป็น Connection ที่ดีครับ 🙂
4. ทำตัวเองให้เป็นคนนิสัยดี
ผมจำคำพูดนี้ได้จากพี่แท็ป (Mission to the Moon) เพราะผมเคยได้ยินคำพูดนี้จากพี่แท็ปมากกว่า 1 ครั้งว่าคนที่จะเติบโตในหน้าที่การงานได้ดีจะต้องเป็นคนที่นิสัยดี
ผมคิดว่าการเป็นคนนิสัยดีในบริบทของการสร้าง Good Connection คือควรจะต้องมีการพูดจาดี วางตัวดี ให้เกียรติคนที่คุยด้วยไม่ว่าเขาจะเป็นใคร
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าฝึกได้ เรียนรู้ได้
การเป็นคนนิสัยดี จะทำให้คนอื่นประทับใจ และทำให้คนอยากคบหา อยาก Connect ด้วย
แต่ถ้าการเป็นคนนิสัยดีไม่ใช่ทางจริงๆ อย่างน้อยอย่าเป็นคนนิสัยแย่ คือเวลามีปัญหาหรือไม่พอใจใคร ก็ควรจะพูดคุยอย่างมีอารยะ ไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีในคำพูดและการกระทำของเรา
พอเขียนถึงเรื่องนี้ แล้วมีเรื่องเล่าพอดี ผมเคยเจอคนระดับ Head ในบริษัทบริษัทนึงใช้คำที่ไม่ดีใส่ (ซึ่ง ณ ตอนนั้น เขาสามารถเลือกใช้วิธีการคุยที่ดีกว่านั้นได้อีกเป็นร้อยรูปแบบของการสนทนา) มันเลยทำให้หลังจากนั้น ผมไม่อยาก Support บริษัทนั้นๆ อีกเลย
ขอโน้ตไว้นิดนึง ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าตัวผมเองก็มีหลุดและทำตัวนิสัยไม่ดีอยู่เหมือนกัน ที่ทำได้คือพยายามบอกเรื่องนี้กับตัวเองและพยายามรู้ตัวเองให้มากๆ เมื่อไหร่ที่พูดจาไม่ดี ต้องกลับลำให้ทัน หรือขอโทษให้ทัน
สุดท้าย ผมคิดว่าเรื่องของ Connection ต้องใช้เวลา
ไม่รีบร้อน ไม่เร่งรัด Good Connection ไม่ได้เกิดขึ้นได้ในข้ามคืน หรือแค่ภายในไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ในบางครั้ง กว่าจะเห็นผลจากการสร้าง Connection อาจจะใช้เวลาเป็นปีๆ หรือเป็นสิบปี
และผมคิดว่าการสร้าง Connection คือการ Connect the Dots
คนที่เราเคยคุยด้วย เคยช่วยเหลือ เคยทักทาย ณ วันนั้น ทั้งเราและเขาอาจจะยังไม่ได้มีโอกาสใช้ Connection ให้เป็นประโยชน์ แต่ผมคิดว่าถ้าเราตั้งใจสร้าง Good Connection และตั้งใจทำให้ตัวเองเป็น Good Connection สำหรับคนอื่นๆ ด้วย ในหลายๆ ครั้ง Dots ต่างๆ ที่เราเคยสร้างไว้มันจะกลับมาเชื่อมกันได้อย่างน่าอัศจรรย์เลยล่ะ
ลองเอา 4 วิธีข้างต้นไปใช้ รับรองว่า เวลาผ่านไป คุณจะ Make Good Connection ที่ดีกับชีวิต ดีต่อใจ และดีกับงานของคุณแน่ๆ ครับ 🙂
