จากที่เคยแชร์ประสบการณ์การทำ New Year’s Resolutions ของตัวเองให้สำเร็จไป 57% เอาไว้ในคอนเทนต์ก่อนหน้า คิดว่าในปีนี้คุณเองก็มี New Year’s Resolutions ไม่ต่างจากผมอย่างแน่นอน
ปีใหม่ฉันจะเป็นคนใหม่ ปีใหม่ฉันจะ…. (จงเติมคำในช่องว่าง) วาดฝันเอาไว้อย่างดี แรกๆ ก็ทำได้อยู่หรอก แต่ผ่านไปสักพักเหรอ ก็ท้อไปดื้อๆ ซะงั้น
เอาเข้าจริงๆ แล้วการตั้ง New Year’s Resolutions ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร แต่ไอ้เจ้าความท้อ ความเหนื่อย การหมด ‘พลังใจ’ ระหว่างที่พยายามทำ New Year’s Resolutions ให้สำเร็จนี่แหละที่เป็นตัวปัญหาหลัก
จากผลการสำรวจความเครียดประจำปีของ American Psychological Association เผยว่า อุปสรรคอันดับ 1 ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตในเชิงบวกได้เกิดจากการขาด ‘พลังใจ’
วันนี้ผมเลยจะมาแชร์เคล็ดลับการเติมพลังใจง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆ วันกันครับ
1. จดโน้ตความก้าวหน้าเล็กๆ ที่เกิดขึ้น
ชีวิตก็เหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่มีใครเกิดมาแล้วเริ่มวิ่งตั้งแต่ก้าวแรกได้เร็วทันที กฎข้อนี้จริงเสมอกับทุกคน! ไม่เว้นแม้กระทั่ง Usain Bolt นักวิ่งที่ได้ขึ้นชื่อว่าวิ่งเร็วที่สุดในโลกก็ด้วย
ทุกอย่างล้วนแต่ต้องใช้เวลา ใช้การฝึกซ้อม ดังนั้น การซอยเป้าหมายออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วจดโน้ตความก้าวหน้าถือเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง
ค่อยๆ ติดธงไปทีละอัน ให้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องย้ำเตือนว่า คุณมาได้เดินมาไกลมากแค่ไหนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ปีนี้มีเป้าหมายว่า จะอ่านหนังสือให้ครบ 20 เล่ม ซึ่งในแต่ละวัน คุณอาจจะเอาจำนวนหน้าที่อ่านจบจดโน้ตลงในสมุด จากนั้น หากอ่านจบ 1 เล่ม อาจจะให้รางวัลตัวเองด้วยการฉลองชาบูสักมื้อ เป็นต้น
ต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าคุณใช้เคล็ดลับนี้ มันอาจจะไม่สามารถการันตีความสำเร็จได้ทีเดียวนะครับ แต่ผมรับประกันว่า โอกาสที่คุณจะท้อถอยระหว่างทางจะลดลงแน่ๆ
2. มองหาไอดอลในดวงใจ
การส่องรอยเท้าของคนอื่นถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ดีมากๆ มีหลายคนที่ประสบความประสบความสำเร็จแล้วถูกจารึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ มีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่พร้อมส่งต่อแรงบันดาลดีๆ ให้แก่คุณ
ลองหาใครสักคนเป็นไอดอลดู อาจจะเป็นพ่อ แม่ เพื่อน หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงก็ได้ พวกเขาทำได้ คุณเองก็ทำได้เช่นกัน แต่ทำได้ในที่นี้อาจจะต้องเป็นในแบบฉบับตัวเองเท่านั้นนะครับ ไม่ต้องทำตามเป๊ะๆ อันไหนที่ดีก็เอามาปรับใช้ ส่วนอันไหนที่ไม่ดีก็โยนทิ้งไป
“กรุยเส้นทางในแบบฉบับของตัวเอง”
3. ใช้จินตนาการให้เป็นประโยชน์
ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของคนเรา ถ้าคุณคิดว่าง่าย มันก็จะง่าย แต่ถ้าคุณคิดว่ายาก มันก็จะยาก
ใช้จินตนาการ พรสวรรค์ที่ติดตัวเราทุกคนมาตั้งแต่เกิดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ศรัทธาในตัวเอง และท่องเอาไว้ว่า “เราทำได้!”
4. ให้อภัยความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
การเสียเวลาจมปลักกับอยู่กับความผิดพลาด และทุบตีตัวเองซ้ำๆ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา
แน่นอนว่าในระหว่างทางย่อมมีขึ้น มีลงเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้น หากคุณเผลอทำอะไรพลาด ก็อย่าเสียกำลังใจหรือโทษตัวเอง เพราะความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะต้องเจอ บอกตัวเองว่า ฮึบๆ เดี๋ยวเอาใหม่อะไรทำนองนี้
ให้อภัยคนอื่นมาเยอะแล้ว หันกลับมา ‘ให้อภัยตัวเอง’ กันบ้างนะครับ 🙂
5. นึกถึงความสำเร็จในอดีต
หลังจากที่บอกให้มองหาแรงบันดาลใจจากคนอื่นไปในข้อก่อนหน้าแล้ว ในข้อนี้ผมอยากให้ลองมองหาแรงบันดาลใจจากตัวคุณเอง
นึกดูว่า ที่ผ่านมา คุณเคยทำเรื่องไหนสำเร็จมาแล้วบ้าง? เรื่องเหล่านั้นคุณยังสามารถทำได้เลย แล้วเรื่องตรงหน้านี้ทำไมคุณถึงจะไม่สามารถทำมันจนสำเร็จได้ล่ะ จริงไหมครับ?
ท่องเอาไว้ว่า มันก็แค่อีกด่านของชีวิตที่ผ่านเข้ามาทดสอบเท่านั้น เราจะผ่านมันไปได้ และชัยชนะจะเป็นของเราอีกครั้งอย่างแน่นอน!
สรุป
การหมด ‘พลังใจ’ สามารถเกิดขึ้นกับทุกคน ไม่มีการแบ่งชนชั้น วรรณะ หรือสถานภาพทางสังคม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คุณจะรู้สึกแบบนี้
ลองนำเคล็ดลับนี้ไปปรับใช้ดู หมั่นเติมพลังใจให้ตัวเองบ่อยๆ สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน ผมขออวยพรให้พลังใจของคุณมีแต่งอกเงยทวีคูณยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ นะครับ 🙂