ผมพึ่งเข้าไปอ่านเว็บนึง หัวข้อและเนื้อหาน่าสนใจมาก แต่อ่านไม่จบ จริงๆ อยากบอกว่านอกจากหัวข้อและเนื้อหาแล้ว การสร้างประสบการณ์ให้น่าอ่านก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
เห็นแล้วคันไม้คันมือ ฮา เลยอยากจะถือโอกาสนี้เขียนวิธีปรับแก้ประสบการณ์ของเว็บไซต์ง่ายๆ ขึ้นมา
แค่ปรับจุดเล็กๆ เหล่านี้ อาจจะทำให้คนเข้าไปอ่านอ่านจบ หรือเข้าไปอ่านเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย
5 เทคนิคทำให้เว็บไซต์น่าอ่านมากขึ้น
1. ให้ Header ในการ Break สายตา
การมีหัวข้อขั้นเนื้อหาแต่ละช่วงจะทำให้คนอ่านรู้ว่าเขาอ่านถึงไหนแล้ว แต่อันต่อไปจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ถ้าใช้พวก H2, H3 ในการจัด Hierarchy ดีๆ นอกจากจะทำให้อ่านง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นผลดีกับ SEO ด้วยนะ
2. ถ้าเป็นเนื้อหา ควรใช้ฟอนต์มีหัว
ปัญหานี้เป็นปัญหาคลาสสิกที่เจอในหลายๆ เว็บเลยคือ “ใช้ฟอนต์ไม่มีหัว” ทั้งเว็บ
ฟอนต์ไม่มีหัว ถ้าใช้กับพวก Header มันจะทำให้ดูดี ดูสวยขึ้น แต่พอใช้กับเนื้อหาที่เขียนยาวติดๆ กันหลายบรรทัด จะทำให้อ่านยากขึ้น
เพราะฉะนั้น แนะนำให้ใช้ฟอนต์มีหัวสำหรับตัวอ่านครับ จะใช้ Default Font ก็ได้ หรือไปใช้พวก Sarabun หรือ Prajad ก็จะทำให้เว็บดูสวยไปอีกแบบ
3. สีฟอนต์กับสี Background ยิ่งตัดกันยิ่งดี
เพราะถ้าสีฟอนต์กับสี Background เหมือนกัน จะทำให้มันกลืนกันไปหมด แล้วจะอ่านยาก
ถ้าใช้ Background สีขาว ตัวฟอนต์ก็ควรจะใกล้เคียงกับสีดำให้ได้มากที่สุด แต่แนะนำว่าอย่าใช้เบอร์ #000000 เพราะมันจะดำมืดไป และอาจจะทำให้ภาพรวมสวยน้อยลง
4. มันโอเคที่จะใช้ภาษาพูดบ้าง
ถ้าเนื้อหาต่างๆ ถูกจัดเรียงให้เหมือนกับหนังสือเรียน ใช้คำถูกหลักไปซะหมด ไม่มี Expression ที่ดูน่าสนใจหรือทันสมัยเลย มันก็อาจจะดูน่าเบื่อ
ผมคิดว่ามันโอเคนะที่จะใช้คำว่า “ยังไง” แทน “อย่างไร” “สักพักนึง” แทน “ชั่วครู่หนึ่ง” อะไรแบบนี้
คือมันให้ความรู้สึกแบบคนคุยกับคน เพื่อนคุยกับเพื่อน มากขึ้น
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของเว็บไซต์ด้วยนะว่าเป็นแบบไหน ถ้าเป็นเว็บไซต์ทางการ การใช้เนื้อหาทางการก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
5. มีรูปคั่นบ้าง
ถ้าทั้งบทความมีแต่ Text ไม่มีรูปคั่นเลย และบทความนั้นยาวมากๆ ก็อาจจะดูน่าเบื่อได้ เพราะไม่มีอะไรมาเบรกสายตาเลย
อย่างบทความอันนี้ (ที่ตอนแรกจะเขียนเป็นโพสต์สั้นๆ) แต่เขียนไปเขียนมาชักยาว ฮา ที่ไม่มีรูปอะไรมาคั่นเลย ก็อาจจะทำให้ดูน่าเบื่อได้
สรุป
และนี่คือ 5 เทคนิคง่ายๆ ที่คิดขึ้นมาได้ตอนเช้าครับ ลองเอาไปปรับใช้กับเว็บตัวเองดู หวังว่าจะมีประโยชน์ครับ
อันนี้เป็นการแชร์เร็วๆ ถ้าอยากได้ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์แบบที่ลึกยิ่งขึ้น แนะนำให้ไปอ่านที่ https://contentshifu.com/blog/category/website ครับ 🙂
