โอกาสของประเทศไทยในโลกที่หักมุม

Featured Image winning turns twists thailand

ใครอยากขี่กระแส & คว้าโอกาส ต้องอ่านคอนเทนต์นี้ครับ!

โลกที่หักมุมเรียงจากใกล้ตัวไปไกลตัว 🔀

1. Tech/AI Twists
2. Geopolitical Twists
3. Sustainability Twists
4. Demographic Twists

อยากชนะ ต้องทำอย่างไร?

– อย่าเล่น ‘ผิดเกม ผิดเวลา’: การเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลกของเราอาจจะไม่พอ ถ้าเกมของโลกเป็นเกมอื่น เช่นถ้าโลกเล่นกันแห่มากล้อม แต่เราเก่งหมากรุก ก็ไม่ช่วย

– เป็นมือกลางๆ ในเกมที่ใช่อาจจะเป็นผู้ชนะได้ ต้องอ่านเกมให้ออก คลื่นอะไรกำลังมา และขี่มันไป

สภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน 🇹🇭

– เศรษฐกิจไทยเปรียบเสมือน “นักกีฬาสูงวัย” ที่ร่างกายเสื่อมสมรรถนะ ต่อให้ทำดีแค่ไหน GDP ก็จะสูงไม่เกิน 3% เพราะมันคือโครงสร้างปัจจุบันของประเทศที่ขาด Productivity Growth

– ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน ต่อให้เขาทำแย่ขนาดไหน ประเทศเขาก็ยังจะโต เพราะโครงสร้างเขาเอื้อกว่า

– ลงทุนในไทย อาจจะง่ายกว่าที่อินโด เวียดนาม หรืออินเดีย แต่ที่เหล่านั้น ถ้าเขาชนะ เขาจะได้ผลตอบแทนมหาศาล แต่ของประเทศไทย ถ้าชนะ ก็ได้ผลตอบแทนแค่กลางๆ

Growth ประเทศไทยอยู่หนใด? 📈

– ในภาพรวมๆ ประเทศไทยโตช้าแหละ แต่มันจะมีบาง Segment ที่จะไปได้ดี ซึ่งเราต้องจับกระแสให้ถูก

1. ตลาดคนต่างชาติ

– ประเทศไทยเป็นประเทศที่ ‘คนนอกอยากเข้า แต่คนไทยอยากออก’ ซึ่งคนอยากออกมากกว่าคนอยากเข้า (ประมาณปีละ 900,000 คน) ซึ่งประเด็นหลักน่าจะเป็นเรื่องปากท้อง ต่างประเทศก็ขาดคนเหมือนกัน ซึ่งเขาสามารถ Offer เงินสูงๆ เพื่อดึง Talents ไปทำงานในประเทศเขาได้

– สำหรับชาวต่างชาติเขาชอบมาอยู่ไทย ค่าครองชีพไทย โดยที่ได้เงินเดือนฝรั่ง

– อสังหา ตลาด Domestic ลำบากมาก แต่ถ้าเล่นตลาดต่างชาวต่างชาติไปได้ดีมากๆ

2. ตลาด Tourism

– ในช่วงที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการผลิตของไทยถือว่าค่อนข้างหนักมาก บริการพอไปได้ ท่องเที่ยวดี

3. โอกาสจาก Care Economy

– Lifespan คนยาวขึ้น แต่ Healthspan ของคนอาจจะไม่ได้ยาวขึ้นตาม

– เวลาคนจะดูแลสุขภาพ ไม่ได้จะไปดูแลตอนอายุ 70-80 แต่ต้องดูแลตอนอายุ 20-30

– เรื่อง Healthy Eating, Personal Care & Mindfulness เป็นเรื่องที่คนให้ความสำคัญมากขึ้น

– ถ้าเอาเรื่อง AI Economy มา x กับ Bioeconomy จะยิ่งทำให้เรื่องนี้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น

อยากเติบโต ปัจจัยเรื่อง Geopolitics เป็นเรื่องต้องใส่ใจ 🌏

– Geopolitics = ภูมิรัฐศาสตร์

– สิ่งที่ Trump ทำอยู่ปัจจุบันตอนนี้เป็น ‘ผล’ ไม่ใช่เป็น ‘เหตุ’

– ยุคนี้เป็นยุคที่ Asia กำลังมา จะเป็น Engine ที่สำคัญ เป็นชีพจรมังกร

– ในอนาคต (ราวๆ 2050) ประเทศจีนจะผงาด แซงหน้าอเมริกาเป็นอันดับ 1 นอกจากนั้นแล้ว ประเทศที่มี Growth สูงๆ เป็น และใน Top 5 จะยังมี India & Indonesia ด้วย

– แต่ในโลกของเจ้าพ่อ เวลาจะมีเจ้าพ่อคนนึงหมดอำนาจ เขาจะไม่ยอมหมดอำนาจง่ายๆ สิ่งนี้ทำให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ และเกิดความถดถอยของอุตสาหกรรมในสหรัฐ

– Trump 2.0 นี้ จะเกิด 3Ts

1. Tariffs (กำแพงภาษี): ซึ่งจะมี 3 ชั้นคือ 1. ทั่วไป 2. อุตสาหกรรม (i.e. Steel or Aluminum) 3. รายประเทศ

2. Transactional: ทำทุกอย่างเป็นดีล เป็นการเจรจา ประกาศหนักและลงมือทำจริง และเป็น Game of Chicken ใครยอมแพ้ก่อนก็แพ้ไป และต้องทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเราเป็นบ้า ทำให้คนอื่นกลัว กระโดดหนีและเป็นฝ่ายแพ้เอง

3. Triumph: ต้องการเป็นผู้ชนะ ถ้ามองเศรษฐกิจเป็น Pie 1 ชิ้น ต่อให้ Pie ทั้งหมดเล็กลง แต่ของอเมริกาต้องมีปัญหาน้อยกว่าคนอื่น

– ผลกระทบต่อ Trade War ของ Trump 1. ส่งออกไทยมีปัญหาในการส่งเข้าอเมริกามากขึ้น 2. บางประเทศจะไม่ยอมก้มหัวให้ (เช่นจีน & ยุโรป) 3. ประเทศต่างๆ จะส่งออกไปที่อื่นแทน เช่น ประเทศไทย (เพราะไทยเสรีกว่าที่อื่น) 4. การลงทุนจะถดถอยจากความไม่แน่นอน 5. ประโยชน์จากการย้ายฐานลงทุน

ประเทศไทยมีพรสวรรค์ในการดึงดูดคนเก่งๆ 👥

– คนต่างชาติชอบมาอยู่ประเทศไทย

– ถ้าประเทศไทยทำเรื่อง Visa และโปรแกรมในการดึงดูด Talent ดีๆ น่าจะช่วยได้เยอะ

โลกเปลี่ยนด้วย GenAI 🤖

– Generative AI เปลี่ยนโลกด้วย 2C

1. C – Creativity: การออกแบบต่างๆ เริ่มทำได้ง่ายขึ้นด้วย AI แล้ว (อย่างปัจจุบัน CEO ของ Studio Ghibli ก็บ่นเรื่องนี้)

2. C – Coding: GenAI ทำให้ Coding เป็นภาษาคน คนที่ไม่รู้เรื่อง Technical/Coding สามารถใช้ AI สร้าง Prototype บางอย่างออกมาก่อนได้

– ก่อนหน้านี้เราคิดว่าโลกของ AI เป็นของ US แล้ว แต่ปีนี้มี Deepseek ที่เป็นของจีนออกมา ความสามารถไม่หนีกันมาก ราคาถูกกว่า และเป็น Open Source (คนเอาไปพัฒนาต่อได้)

– สงคราม AI ระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่นี้จะทำให้ยุคของ AI มาเร็วขึ้นอีก

– โลก 4 ใบในยุคของ AI: 1. AI Doomsday (AI ครองโลก) 2. AI Boom x High Inequality (ทำให้ความเหลื่อมล้ำสูงขึ้น) 3. AI Boom x Inclusive Growth (ทำให้ทุกๆ คนเติบโต) 4. AI Bust (AI ไม่ได้เปลี่ยนโลกขนาดนั้น)

– AI ไม่ใช่การปฏิวัติทางเทคแต่คือการปฏิวัติทางปัญญา ซึ่ง AI จะไม่ได้ทำงานให้งานต่างๆ หายไป แต่ทำให้งานเปลี่ยนไป

– AI ทำให้พฤติกรรมของ Consumer เปลี่ยนแปลงไป ในอดีตคนคิดว่า Digital จะทำให้คนซื้อของแต่หน้าคอม แต่จริงๆ แล้ว Shopping Behavior มันเป็น Hybrid มากๆ และการเข้ามาของ AI ก็จะทำให้พฤติกรรมคนเปลี่ยนแปลงไปอีก

– โลกจะถูกแบ่งเป็น คนใช้ AI เป็น vs คนที่ใช้ AI ไม่เป็น: คนธรรมดาๆ สามารถเข้าถึงภูมิปัญญาเจ๋งๆ ได้ และคนที่เก่งทั้งใน Domain ของตัวเองและใช้ AI ด้วยจะกลายเป็นยอดคน (Smart Cyborg) ทันที

โลกที่หักมุมของ Sustainability

– 4 กลไกขับเคลื่อน Green Economy: 1. Green Capital (ESG Investing) 2. Green Consumer (พร้อมจ่ายเพิ่ม 12%) 3. Green Tech (Electrification, Efficiency & Ecosystem) 4. Green Policy (CBAM & IRA)

– เรื่อง Sustainability ผูกกับเรื่อง Geopolitics มากๆ

– ประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาธรรมชาติเยอะมากๆ ลองคิดดูว่าประเทศเราจะทำยังไงในเวลาที่ ในน้ำไร้ปลา ในนาไร้ข้าว ในป่ามีไฟ ในอากาศมีฝุ่น วุ่นแผ่นดินไหว

– ระดับน้ำทะเลในประเทศไทยจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

เราจะชนะในเกมเหล่านี้ได้อย่างไร?

– พึ่งโชค… แต่แน่นอนว่าจะพึ่งพาแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวก็ไม่ได้

– Luck = Preparation x Opportunity

– เราต้องพร้อมที่จะ 1. Unlearn (ต้องพร้อมที่จะเลิกรู้และเรียนรู้สิ่งใหม่) 2. เชื่อในพลังของ Diversity (ความหลากหลาย) 3. สร้าง Challenger Mindset (ต้องพร้อมทำตัวเป็นมวยรอง เห็นความเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาส)

– โดยสรุป เราควรจะต้อง Stay Humble

– เมื่อคลื่นยักษ์มา เราจะสร้างกำแพง หรือคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลง… ทางเลือกเป็นของเรา

สรุปจากคลาส DTX6 Session Winning Turns in the World Full of Twists โดยคุณต้นสน คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.), Bank of Thailand และ อดีต Group Chief Economist & MD ของ Sea Group (Shopee, Garena & SeaMoney)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top