สัปดาห์ที่แล้วผมไปงานของสมาคม Thai Startup ครับ
เกือบๆ 10 ปีก่อน ผมก็เคยทำ “Startup” เหมือนกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้สิ่งที่ทำอยู่ จะไม่ได้เรียกว่าเป็น Startup แล้ว แต่มีหลายๆ สิ่งที่เรียนรู้มาจากช่วงนั้นครับ
1. Having a Mindset of Hustlers
การทำ Startup คือการ Make the impossible possible โอกาสล้มเหลวมากกว่าโอกาสสำเร็จมากมายหลายเท่า
เพราะฉะนั้นต้อง Loop ของการทำ Build Measure Learn อยู่ตลอด และ Loop นี้ต้องวนให้ไวด้วย
ว่าง่ายๆ คือการทำ Startup ต้องมีความเป็นสัตว์ที่ผมเกลียดและกลัวมากๆ อย่าง “แมลงสาบ” (แค่พิมพ์ก็ขนลุกแล้ว 😂) โดนตบ โดนเหยียบ แขนขาขาด แต่ต้องรอด
2. Pitch Pitch Pitch
การทำ Startup ก็เหมือนการโฆษณาชวนเชื่ออย่างนึง
คนแรกที่คุณต้องทำให้เขาเชื่อให้ได้ก็คือ “ตัวคุณเอง” ถ้าคุณไม่เชื่อในสิ่งที่คุณทำ คุณจะโดนโลก Question จนคุณก็ไม่เชื่อตาม
คนที่สองคือลูกค้า ที่ต้องขายให้เขาใช้ และซื้อของของคุณ ซึ่งแน่นอนว่าช่วงแรกๆ จะโคตรยาก และ Conversion Rate ก็จะต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากๆ คำแนะนำของผมคือ ขายต่อไปฮะ ทำไปพร้อมๆ กับปรับ Product/Service ยังไงก็ต้องมีคนซื้อ
คนที่สามคือทีม เพราะ Startup เองไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง หรือสวัสดิการน่าสนใจเหมือนบริษัทใหญ่ๆ (เอาจริงๆ ตอนเริ่มต้น แค่สวัสดิการเหมือนบริษัท SME ก็ยังอาจจะให้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ) เพราะฉะนั้นต้องขายฝันให้ได้ครับ
คนที่สี่คือนักลงทุน ที่ถ้าคุณทำ Startup คุณจะต้องเจอพวกเขาอยู่เรื่อยๆ และต้องทำ Elevetor Pitch อยู่บ่อยๆ แน่ๆ อย่างของผม ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ Actively หา Investor แต่ก็ต้อง Pitch สิ่งที่ทำให้คนที่ไม่อยู่ใน 3 วงแรกเป็นประจำ (ถ้าฝึก Part นี้ดีๆ อาจจะได้ Partner หรือ Collaborator มาทำงานร่วมกัน)
3. From Tech Newbies to Tech Nerdy
แต่ก่อนผมเป็นคน Low Tech มากๆ
คอมก็ใช้คอมรุ่นเก่าๆ มือถือก็ตกรุ่น ตอนเรียน Coding (Java) ในมหาลัยเกรดก็ดี…
ดีคือ D Dog นะ น่าจะ Dog คนสุดท้ายก่อน F 😂
แต่พอมาทำ Startup มันเหมือนถูกบังคับให้เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีไปโดยปริยาย เพราะช่วงแรกๆ มันต้องทำเองหลายๆ อย่าง
สกิลการสร้างเว็บไซต์ (บล็อก) ด้วย WordPress การใช้พวกเครื่องมือ Project Management ความรู้เรื่องเซอร์เวอร์ (แบบเบื้องต้น) ก็มาเรียนรู้ตอนทำ Startup นี่แหละ
ความรู้สึกที่ได้ตอนเปลี่ยนจาก “ไม่รู้” กลายเป็น “รู้” และ “เข้าใจ” นี่มันฟินจริงๆ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมอินเรื่อง Martech
ทำไปทำมา จากเดิมที่ไม่มีสกิลเรื่องนี้เลย ตอนนี้เริ่มคุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว 😂
4. From a User of Many Things to a Maker of Something
แต่ไหนแต่ไรมา ผมเคยชินกับการ “Use & Consume” มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ของแบรนด์จากเมืองนอก การใช้ Facebook & Instagram เพื่อสร้างเครือข่ายทางสังคม การเสพคอนเทนต์จากต่างประเทศ
เรียกได้ว่าเป็น User of Many Things ที่ “เปิดรับ” สิ่งต่างๆ
แต่การทำ Startup มันช่วยเพิ่มสถานะ Maker of Something ที่ “สร้างและส่งต่อ” คุณค่าให้กับเราด้วย
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมชอบและเอามาใช้ต่อถึงแม้จะไม่ได้ทำ Startup แล้วก็คือ แค่เอามาใช้ไม่เพียงพอต้องสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมา หรือย่างน้อยๆ ต้องสร้างต่อจากสิ่งที่เอามาใช้ด้วย
สรุป
และนี่คือ 4 อย่างที่ผมเรียนรู้มาจากการทำ Startup นะครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ Startup มีอะไรอยากเสริม มาเสริมกันได้ในคอมเมนต์เลยนะครับ 🙂